tag:blogger.com,1999:blog-58658077422196985802024-03-05T06:56:27.140-08:00DOOPLADIP Japan Series and MovieUnknownnoreply@blogger.comBlogger37125tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-33536717466709443682011-09-19T16:53:00.000-07:002011-10-04T15:33:23.510-07:00เลือดล้างตระกูล Karei naru Ichizoku ที่สุดของละครดราม่า<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Karei naru Ichizoku (The Grand Family)</span></b> ซีรี่ย์เรื่องเยี่ยมที่จะสะท้อนให้เห็นถึงธาตุแท้ของความเป็นมนุษย์ในปัจจุบัน ได้อย่างไม่คาดฝัน<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-3TxB8la1KZQ/TouJVrwnfgI/AAAAAAAADzY/cEq3l1UyvJM/s1600/Karei.JPG" imageanchor="1" style="clear:left; float:left;margin-right:1em; margin-bottom:1em"><img border="0" height="200" width="170" src="http://3.bp.blogspot.com/-3TxB8la1KZQ/TouJVrwnfgI/AAAAAAAADzY/cEq3l1UyvJM/s200/Karei.JPG" /></a></div>บทภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นบทประพันธ์ที่น่าหลงใหลและชวนให้ติดตามทั้งยังเป็นบทประพันธ์สุดรัก จากปลายปากกาของยามาซากิ โทโยโกะ ซึ่งได้รับการตอบรับมาจากผู้ชมอย่างท่วมท้น(1974) จนเป็นเหตุให้ต้องมีการนำเอามาทำเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์กันอีกครั้งหนึ่ง โดยที่จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นอยู่ที่การแสดงออกและเปรียบเทียบได้อย่างสมจริงสมจังในด้านของนิสัยและอารมณ์ของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์ปุถุชนทั้งหลายที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งอารมณ์ที่แสดงออกถึงการดีใจ, เสียใจ,เจ็บปวด, ผิดหวัง ตลอดจนสภาพสังคมในปัจจุบันที่คนดีเริ่มจะเลือนหาย แต่คนชั่วเริ่มย่างกลายเข้ามาแทน...<br />
<br />
นอกจากนี้ตัวละครหลายๆตัวที่ปรากฏอยู่ในเรื่องละครนี้นั้น หากใครได้ลองรับชมแล้วจะเห็นได้ว่าตัวละครต่างๆจะมีบุคลิก,อุปนิสัย, วิธีการแสดงออกถึงอารมณ์และวิธีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันไป ซึ่งเมื่อเรานำมาเปรียบเทียบกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในยุคปัจจุบันนี้แล้วแทบจะเรียกได้ว่าไม่ได้มีส่วนใดเลยที่ต่างกัน ดังนั้น หากเราได้มีโอกาสก็ขอให้ลองรับชมกันดู ไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็นส่วนหนึ่ง ในการผลักดันและให้กำลังใจแก่ท่าน ซึ่งกำลังท้อแท้กับชีวิตในยุคปัจจุบันนี้ก็เป็นได้<br />
<br />
ทั้งนี้เพื่อเป็นการรวมเฉลิมฉลองแก่สถานี Tokyo Broadcasting System (TBS) จึงได้ดำริ สร้างละครเรื่องนี้อีกครั้งให้สมกับความยิ่งใหญ่ด้วยทุนสร้าง รวมถึงเสื้อผ้าและฉากหลังของประเทศญี่ปุ่นยุคปลาย 60 ทั้งยังรวบรวมดารามากฝีมือ เอาไว้อย่างคับคั่งที่จะมาประชันบทบาทกันอย่าเข้มข้นกันใน Karei naru Ichizoku ซีรี่ย์ที่จะพิสูจน์ความเป็นนักสู้ในตัวคุณ<br />
<br />
การกลับมาของ คิมูระ ทาคุยะ หลังจากที่ห่างหายไปเป็นเวลา 4 ปี กับบทบาทการแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต<br />
<br />
คิมูระ ทาคุยะ นักแสดงชื่อดังที่คิดว่าทุกท่านคงจะรู้จักและรับทราบถึงฝีมือในการแสดงของเขาได้เป็นอย่างดี แต่หลังจากที่ละครเรื่อง Good Luck ได้ปิดฉากลงไป เราก็ไม่มีโอกาสได้รับชมฝีมือการแสดงละครของเขาอีกเลย แต่ทว่ามาในครั้งนี้เขาได้หวนกลับมาอีกครั้ง โดยกลับมารับบทบาทเป็น มันเปียว เทปเป ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของ มันเปียว ไดสุเกะ เจ้าพ่อกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมมันเปียว ยักษ์ใหญ่แห่งวงการธุรกิจของญี่ปุ่น โดยที่บุคลิกและลักษณะนิสัยของ เทปเป นั้น เขาเป็นคนที่ขยันขันแข็ง เอาจริงเอาจัง พูดจาตรงไปตรงมา และเอาใจใส่ผู้คนที่อยู่รอบข้างได้อย่างดีเยี่ยม<br />
<br />
ดังนั้นเขาจึงเป็นทั้งที่รักและที่เชิดชูบูชาจากบรรดาผู้คนที่อยู่รอบข้างเขา แต่ทว่าในขณะเดียวกันนั้นเอง ยิ่งเขาเป็นที่รักของบรรดาผู้คนมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งมีคนที่เกลียดเขามากขึ้นเท่านั้น และเนื่องจากว่าเขามีบุคลิกที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นผู้นำในอุดมคติที่หลายคนนั้นอยากจะให้มีก็ยิ่งทำให้เกิดผู้ที่เกลียดชังและหมายที่จะปองร้ายเขามากขึ้น <br />
<br />
และด้วยลักษณะนิสัยทั้งหมดที่กล่าวมานี้เอง จึงทำให้ผู้ที่จะมารับบทเป็น เทปเป นั้น จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกเสียจาก คิมูระ ทาคุยะ เท่านั้น เพราะ คิมูระ ทาคุยะ เป็นนักแสดงที่ได้รับความชื่นชอบจากบรรดาผู้ชมทุกเพศทุกวัย และมีฝีไม้ลายมือในการแสดงเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งผ่านเวทีการแสดงมาแล้วอย่างนับไม่ถ้วน ดังนั้น ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้บรรดาแฟนๆที่ตั้งหน้าตั้งตารอชมผลงานของเขา ได้กลับมารับชมกันอีกครั้งหนึ่ง<br />
<script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib 468*60 */
google_ad_slot = "2964542722";
google_ad_width = 468;
google_ad_height = 60;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script><br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Karei naru Ichizoku 華麗なる一族</span></b><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjtpMLBqIgxlMJFUPkjJDqoUVdoBdwcEGqcI7y6d3OZApkhko6iVBq1U2KY9gGAU_q_PCnIiPaAntSN2tAi4C68hq_SwoZ4dT-LOW7bJRKKPm2fCE0wg1E61nNylH1XfTAtFbK3dyzU7PA/s1600/kareinaru.jpg" imageanchor="1" style="clear:left; float:left;margin-right:1em; margin-bottom:1em"><img border="0" height="150" width="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjtpMLBqIgxlMJFUPkjJDqoUVdoBdwcEGqcI7y6d3OZApkhko6iVBq1U2KY9gGAU_q_PCnIiPaAntSN2tAi4C68hq_SwoZ4dT-LOW7bJRKKPm2fCE0wg1E61nNylH1XfTAtFbK3dyzU7PA/s200/kareinaru.jpg" /></a></div>ช่วงปลายยุค 60 มันเปียว เทปเป (คิมูระ ทาคุยะ) ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงของบริษัทผลิตและแปรรูปเหล็กในแถบฮันชิน (โอซาก้า-โกเบ) ซึ่งมีบุคลิกนิสัยเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาพนักงานที่เป็นลูกน้องของเขา ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากว่า เขามักจะให้ความสำคัญกับบรรดาลูกน้องของเขามาก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม อีกทั้งเขายังมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะพัฒนาบริษัทของเขาให้ขึ้นเป็นบริษัทอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นให้ได้นั่นเอง<br />
<br />
ในอีกด้านหนึ่ง มันเปียว ไดสุเกะ (คิตาโอจิ คินยะ) พ่อของเขาซึ่งเป็นประธานของกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมมันเปียวและธนาคารกลางฮันชินนั้น ก็ได้เริ่มตระหนักถึงวิฤตการณ์อันเลวร้ายที่กำลังจะมาเยือนในอนาคต อันเนื่องมาจากโครงสร้างทางการเงินที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ไปจนทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมมันเปียวต้องปิดตัวลงในระยะเวลาไม่นาน ดังนั้น เขาจึงต้องการที่จะสั่งสอนลูกๆหลานๆของเขาให้ได้เรียนรู้ถึงการใช้ชีวิตในโลกอันโหดร้ายของธุรกิจ เขาจึงได้เริ่มที่จะวางแผนการบางอย่างขึ้นมา...และแล้วเมื่อวิกฤตการณ์อันเลวร้ายนั้นได้เกิดขึ้นจริง<br />
<br />
บริษัทของ เทปเป ที่ยังคงถือว่าเป็นบริษัทขนาดเล็กอยู่นั้นก็เลยได้รับผลกระทบมากพอสมควร ประกอบกับ เทปเป เองก็เริ่มที่จะรำคาญกับปัญหาซึ่งเกิดจากกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กยักษ์ใหญ่ที่คอยส่งมอบเหล็กให้กับเขา ดังนั้น เขาจึงบากหน้ากลับไปหาพ่อบังเกิดเกล้า เพื่อที่จะขอยืมเงินมาสร้างเตาหลอมเหล็กที่เป็นของเขาเอง แต่ทว่าก็โดนพ่อของเขาปฏิเสธกลับมาอย่างไม่ไยดี และด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายมากขึ้นและก็ทำให้ชีวิตของเขาเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไปนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา<br />
สุดท้ายนี้ เขาจะสามารถกลับมายืนหยัดและลุกขึ้นมาต่อสู้ใหม่กับสภาวะเศรษฐกิจอันเลวร้ายนี้ได้หรือไม่ และเขาจะสามารถฝ่าฟันกับบรรดาคู่แข่งทางธุรกิจได้หรือเปล่า อีกทั้งเขาจะมีวิธีจัดการอย่างไรกับบรรดาญาติสนิทมิตรสหายที่เฝ้าแต่คอยอิจฉาและปองร้ายเขา<br />
<br />
เรามาร่วมคอยลุ้นและให้กำลังใจพร้อมกับเฝ้าติดตามชมผลงานละครเรื่องใหม่ของพระเอกตลอดกาลของเราคนนี้กันดีกว่า<br />
<br />
ที่มา <a href="http://z2picture.blogspot.com/">z2picture.blogspot.com</a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-13689162453815960152011-09-01T10:57:00.000-07:002011-10-04T15:26:20.182-07:00Hitsudan Hostess ทุกอย่างจะโอเค แค่เป็นที่ 1<span class="Apple-style-span" style="color: red;">"เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตและสิ่งต่างๆได้ แต่เราเปลี่ยนแปลงอนาคตและตัวเราเองได้"</span> <span class="Apple-style-span" style="color: blue;">จากชีวิตจริงของ <b>ซาโต้ ริเอะ </b> โฮสเตสสาวที่พิการทางหูและสื่อสารด้วยการเขียน</span><br />
<br />
<b>Hitsudan Hostess 筆談ホステス (Hitsudan hosutesu)</b><br />
<br />
เธอเริ่มหูหนวกเมื่ออายุ 1 ขวบ พ่อแม่ของเธอเป็นคนที่เข้มงวดมาก จึงทำให้เธอกลายเป็นเด็กใจแตก และหนีออกจากบ้านหลายต่อหลายครั้ง เธอเริ่มทำงานใน club แห่งหนึ่ง และลูกค้าหลายๆคนก็ต้องหลงเสน่ห์การสื่อสารด้วยภาษามือที่แสนพิเศษของเธอ หลังจากนั้นเธอก็ย้ายไปยังคลับที่ใหญ่กว่าใน Ginza, Tokyo และกลายเป็นมาเป็นโฮสต์ อันดับ 1 ด้วยอายุเพียง 25 ปีเป็นคนที่โด่งดังในแถบนั้น ในณะเดียวกัน ทางบ้านเธอก็ไม่สามารถยอมรับอาชีพนี้ของเธอได้ เธอจึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากกับเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น รับรองว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่คุณจะประทับใจ ได้มุมมองแง่คิดดีๆในการใช้ชีวิต <br />
<br />
<ul><li><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">ชีวิตที่ไม่มีความท้าทาย คือชีวิตที่ไม่มีอันตราย</span></li>
</ul> <span class="Apple-style-span" style="color: blue;">ชีวิตที่มีความท้าทาย คือชีวิตที่มีคุณค่า</span><br />
<ul><li><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">คำว่า "ดาว" เขียนเหมือนคำว่า "เกิดใหม่"</span></li>
</ul> <span class="Apple-style-span" style="color: blue;">เมื่อไหร่ที่ท้อก็ให้มองที่ฟ้า ก็เหมือนเราได้เริ่มต้นชีวิตใหม่</span> (ตัวคันจิภาษาญี่ปุ่น)<br />
<ul><li><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">โอกาสไม่สามารถเก็บมันไว้ได้ นอกจากเลือกว่าจะคว้ามันไว้ หรือปล่อยมันผ่านไป</span></li>
<li><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">ช่วงเวลาที่ยากลำบาก คือหนทางสู่ความสำเร็จ</span></li>
</ul><br />
<div style="float: right;"><script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib 300*250 Text */
google_ad_slot = "7058232574";
google_ad_width = 300;
google_ad_height = 250;
//-->
</script><script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script> </div><br />
<script src="http://www.adyim.com/ac/?VmpGU1MyTnJPVlpPVlZaV1YwZG9VRmxYZUVka1JtUlZVMVJXYUUxWVFsaFVNVkpEWWtaa1JsTnVUbFpTYlZKNldrVmFjMWRHY0VobFJYUnBZbFV3TVZaR1pIZFJiVkYzWTBoU1lXVnRlRTlaVjNSSFRYYzlQUT09" type="text/javascript">
</script><br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: red;"><br />
@@</span> ที่ซาโต้ ริเอะ เป็น Hostess อันดับ 1 ใน กินซ่า,โตเกียว คงเป็นเพราะการเลี้ยงดูของแม่ที่เข้มงวดกับเธอมาก แม่จะเคี่ยวเข็ญเธอเรื่องเรียนและทุกๆอย่าง <span class="Apple-style-span" style="color: red;">"ลูกต้องเป็นที่ 1 ให้ได้ ถึงแม้ว่าจะหูหนวกแต่ถ้าลูกอยู่เหนือคนอื่น ทุกคนก็จะยอมรับลูก"</span> คนเป็นแม่สอนอย่างนี้เพราะเป็นห่วงลูกสาวที่พิการทางหู แต่ลูกก็รู้สึกว่ากดดัน และเมื่ออะไรๆไม่เป็นอย่างที่หวัง เพื่อนเริ่มตีตัวออกห่าง,แฟนก็มาทิ้งอีก เธอจึงไม่ไปเรียน (ดูในหนังแล้วไม่รู้สึกว่าเธอเป็นเด็กใจแตกเท่าไหร่นะ) เมื่อมีคนชวนไปเป็น Hostess เธอก็ลองไปทำและลูกค้าและทุกๆคนยอมรับในตัวของ Rie มาก นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอไม่เลิกทำงานนี้ ถึงแม้พี่ชายและแม่จะห้าม เธอก็ยืนยันที่จะทำ "เพราะที่คลับยอมรับในตัวเธอ " คนพิการสิ่งที่ต้องการที่สุดก็คือการที่สังคมยอมรับและให้โอกาส แม้แต่คนร่างกายปกติเราก็ยังต้องการสิ่งนี้เหมือนกัน <span class="Apple-style-span" style="color: red;">@@</span><br />
<br />
*เรื่องนี้ไม่ได้ฉายในบ้านเรา r-u-indy เป็นคนเอามาแปลซับ แปลได้ดีทีเดียวล่ะ*<br />
<br />
<div style="text-align: center;"><span class="Apple-style-span" style="color: blue; font-size: large;">筆談ホステス Hitsudan Hostess / Hitsudan hosutesu </span><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><iframe allowfullscreen='allowfullscreen' webkitallowfullscreen='webkitallowfullscreen' mozallowfullscreen='mozallowfullscreen' width='450' height='350' src='https://www.blogger.com/video.g?token=AD6v5dzqnrt-0W1GmrCVWsgreaEjk7s84j7_Z7NabFlzsFSLgrQp_I6RO68pcXs6ntf821U5sGpJ-2tg6cizS72A8g' class='b-hbp-video b-uploaded' frameborder='0'></iframe></div><br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">The story is based on the bestselling</span></b> autobiography of 25-year-old Rie Saito, who became a number-one hostess in Ginza despite being deaf.<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;"><b>Original Writing</b>: Hitsudan Hostess by Saito Rie</span><br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;"><b>Ending theme song</b>:</span> Departures by SQUAREHOOD <br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;"><b>Cast</b></span><br />
Kitagawa Keiko as Saito Rie<br />
Tanaka Yoshiko as Saito Emiko<br />
Fukushi Seiji as Saito Satoshi<br />
Nashimoto Kenjiro as Saito Shiro<br />
Tezuka Satomi as Nagai Kyoko<br />
Inoue Jun as Kobashi Fumiyo <br />
<br />
Referrence <a href="http://wiki.d-addicts.com/Hitsudan_Hostess">wiki.d-addicts.com/Hitsudan_Hostess</a></div>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-32951029600358238172011-09-01T08:32:00.000-07:002011-09-07T11:40:19.087-07:00สถานีโทรทัศน์ในญี่ปุ่นมีที่ไหนบ้างนะ<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">1. <b>Fuji Telebi หรือ Fuji television network</b></span><br />
<br />
<a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/09/japan-broadcasting-television-network.html"><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-l9wM0r17RXk/Tl-oVa7BSjI/AAAAAAAACus/bMNPYCnr-QA/s1600/Fuji-tv.png" imageanchor="1" style="clear:left; float:left;margin-right:1em; margin-bottom:1em"><img border="0" height="145" width="150" src="http://4.bp.blogspot.com/-l9wM0r17RXk/Tl-oVa7BSjI/AAAAAAAACus/bMNPYCnr-QA/s200/Fuji-tv.png" /></a></div></a><br />
อยู่ที่โอไดบะ โตเกียวนี่เอง จริง ๆก็คงเคยเห็นกันบ่อยในละคร อย่าง<b> Love Generation</b> เป็นตัวอย่างที่ดีมากเห็น<b>สะพานสายรุ้ง</b> <b>(Rainbow bridge) </b>ที่อยู่ข้างหน้าสถานีหลายฉากเหมือนกัน ละครของค่ายฟูจิหลาย ๆเรื่องก็ใช้ลานหน้าสถานีอ่ะแหละถ่ายทำ (เล่นง่ายเนาะ) ซึ่งสัญลักษณ์ของที่นี่ก็เป็นรูปดวงตา<br />
<br />
ว่าด้วยเรื่องละครค่ายนี้ ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงให้มากมายเยอะแยะตาแป๊ะไก่ คงคุ้นเคยกันดีค่ะ ทั้งเก่าๆแบบ<b> Love Generation</b> ใหม่ๆแบบ <b>Honey and Clover</b> ละครของฟูจิเทเลบิมีหลากหลายแนวไว้มัดใจคนดู ดาราระดับบิ๊ก ดาวรุ่งพุ่งแรง เดินให้เกลื่อนช่อง<br />
<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">2. <b>TBS หรือ Tokyo Brodcasting System</b></span><br />
<br />
<a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/09/japan-broadcasting-television-network.html"><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-I_SmDY-k48E/Tl-oHCb6xiI/AAAAAAAACuk/_beIbA6PXhE/s1600/logotbs.jpg" imageanchor="1" style="clear:left; float:left;margin-right:1em; margin-bottom:1em"><img border="0" height="57" width="150" src="http://4.bp.blogspot.com/-I_SmDY-k48E/Tl-oHCb6xiI/AAAAAAAACuk/_beIbA6PXhE/s200/logotbs.jpg" /></a></div></a>อ่านะ พูดถึง<b>ฟูจิ</b>แล้วไม่พูดถึง<b>ทีบีเอส</b>ได้ไง คู่แข่งกันกลาย ๆ ล่ะค่ะ แต่ดาราเขาข้ามช่องได้นะ ไม่เป็นเหมือนของไทยเรา TBS นี้ก็มีฐานอยู่ที่โตเกียวเหมือนกันค่ะ เริ่มออกอากาศเมื่อปี 1955 เรื่องละครนั้นก็สูสีคู่คี่กับฟูจิทีวีเลยค่ะ<br />
<br />
ซีรีย์ต่าง ๆ ที่พูดคุยกันอยู่ในห้องนี้ ส่วนมาก(ไม่ใช่ทั้งหมดนะคะ)ไม่ของฟูจิก็ทีบีเอสแหละ นาน ๆ จะหลุดสถานีอื่นมามั่ง ค่ายนี้แนวเค้าคล้าย ๆ กัน ดาราก็ผลัดกันเดินไปเดินมาสองช่องยักษ์ใหญ่นี่แหละ สัญลักษณ์ของสถานี ใครเห็นเหมือนกันมั่ง คิมุว่าคล้ายรูปคนเดินนะคะ<br />
<script type="text/javascript">
<!--
ad_partner="20110713587238782";
ad_website="2011071954748308";
ad_zone="20110720200913409";
ad_format="20080422569846860";
ad_type="tm";
ad_color_border="FFFFFF";
ad_color_bg="FFFFFF";
ad_background="";
ad_color_title="0000CC";
ad_color_text="32629E";
ad_color_url="CC3399";
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript" src="http://ads.bumq.com/ad_show2.js"></script><br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">3.<b> NHK หรือ Nippon Hoso Kyokai</b></span><br />
<br />
<a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/09/japan-broadcasting-television-network.html"><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-WZyBhHwM7Wo/Tl-oio4668I/AAAAAAAACu0/_VtK9r047G8/s1600/NHK_Nippon_Hoso_Kyokai.jpg" imageanchor="1" style="clear:left; float:left;margin-right:1em; margin-bottom:1em"><img border="0" height="57" width="150" src="http://2.bp.blogspot.com/-WZyBhHwM7Wo/Tl-oio4668I/AAAAAAAACu0/_VtK9r047G8/s200/NHK_Nippon_Hoso_Kyokai.jpg" /></a></div></a>ช่องสาธารณะของญี่ปุ่นเขาค่ะ(ถ้าเทียบของไทยคงประมาณช่อง 11 หรือ ช่อง TPBS) ได้เงินอุดหนุนจากรัฐบาล โดยอำนาจของ <b>Broadcasting Act</b> ประชาชีชาวญี่ปุ่นผูกพันต้องจ่ายเงินคิดเป็น 12 US$ ต่อปีให้กับสถานีแต่ไม่จ่ายก็ .... นั่นแหละเค้าก็ไม่ได้ลงโทษอะไร<br />
<br />
ถึงเป็นทีวีของรัฐบาลแต่ก็ทันสมัยนะคะ รายการดึงดูดเพียบละครอะไรต่าง ๆ ก็มี ทั้งละครเช้า ละครช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ละครพีเรียดที่เรียกว่าไทงะดราม่า สารคดีน่าสนใจ รายการโชเนนคลับถ้าจำไม่ผิดก็อยู่ช่องนี้(เด็กจอห์นนี่ไปได้ทุกช่องจริงๆ - -')<br />
<br />
นอกจากนี้ยังมีรายการประเพณีตอนสิ้นปี งานเพลงขาวแดง อันนี้ระดับ original เลยนะคะ จัดทุกวันสิ้นปีค่ะ ใครว่าทีวีของรัฐเชยคิดใหม่เน้อ (ละครเรื่อง<b> Kaze no haruka</b> ก็ไม่เลวนะคะ สนุกดี asadora ของ NHK เค้าล่ะค่ะ)<br />
<br />
ป.ล. ฝากข่าวว่าทีวีสาธารณะของไทย(TPBS)ก็จะนำ น้ำตาล้านตุ่ม(<b>1 litre of tears</b>)มาฉายนะคะ คาดว่าเป็นกุศลผลบุญจากช่อง ITV แต่ก่อนโน้นที่ได้สิทธิการฉายมาแต่ช่องก็ยุบไป<br />
<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">4. <b>NTV หรือ Nippon Television Network</b></span><br />
<br />
<a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/09/japan-broadcasting-television-network.html"><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjtnIMDUYY3VJiv6QXYPYwMNDsUN-FEPVcbSdN0RJbQ5DpqQKFbf7CEgxxNhSL5GZiCrtePDH-LU0lrm8sLqU7wGMPbUhmAYtSKgiiGO-TYrAZgwJmlnoSrxuZdcuxMi8aVngLiNbxn3vU/s1600/ntv.gif" imageanchor="1" style="clear:left; float:left;margin-right:1em; margin-bottom:1em"><img border="0" height="53" width="150" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjtnIMDUYY3VJiv6QXYPYwMNDsUN-FEPVcbSdN0RJbQ5DpqQKFbf7CEgxxNhSL5GZiCrtePDH-LU0lrm8sLqU7wGMPbUhmAYtSKgiiGO-TYrAZgwJmlnoSrxuZdcuxMi8aVngLiNbxn3vU/s200/ntv.gif" /></a></div><br />
</a>พอนึกถึงค่ายนี้ทำไมนึกถึงแต่ละครวัยรุ่นหว่า ประมาณ <b>Gokusen</b> หรือ <b>Nobuta</b> หรือ <b>Tatta</b> อะไรงี้หมดเลย NTV นี้ก็เริ่มก่อตั้งปี 1951 ค่ะ ค่อย ๆ ไต่มาเรื่อย ๆ แล้วก็ topform ตอนออกอากาศการแข่งขันชกมวยปี 1955 เรตติ้งสูงเว่อร์ 90 กว่าแน่ะ แต่มาถึงตอนนี้อิมเมจของ <b>NTV</b> ในสายตาคิมุ(แง่ละคร)แบบว่าละครวัยรุ่น<br />
<br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib 468*60 */
google_ad_slot = "2964542722";
google_ad_width = 468;
google_ad_height = 60;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">5. <b>TV asahi</b></span><br />
<br />
<a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/09/japan-broadcasting-television-network.html"><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-4pCq_rzlino/Tl-o0kC6_pI/AAAAAAAACvE/wh62dXx4ffA/s1600/tv_asahi.jpg" imageanchor="1" style="clear:left; float:left;margin-right:1em; margin-bottom:1em"><img border="0" height="50" width="150" src="http://2.bp.blogspot.com/-4pCq_rzlino/Tl-o0kC6_pI/AAAAAAAACvE/wh62dXx4ffA/s200/tv_asahi.jpg" /></a></div></a>คือความรู้สึกส่วนตัวอีกล่ะ พอพูดถึง NTV มักจะมีอาซาฮีแล่นเข้ามาอยู่ในความคิด และพอนึกถึง <b>TV asahi </b>หน้าลุงทาโมริแห่ง Msta ก็ลอยมา (ฮา) สำนักงานใหญ่ของ TV asahi นั้นอยู่ทางด้านใต้ของรปปงงิคอมเพลกซ์ค่ะ ฟู่ฟ่าไม่เลวเนาะ<br />
<br />
ส่วนเรื่องละคร เฮ้ ๆๆๆ ความรู้สึกส่วนตัวอีกล่ะ สงสัยจะไม่ถูกกับแนวการทำละครของค่ายนี้แฮะ แบบว่า ๆ Haruka 17 แบบว่า ๆ regatta แบบว่า ๆ Hotelier จึ๋ย ไม่ใช่แนวเรา ...ไม่ว่าแนวตั้ง แนวตอน แนวตะแคง<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">6. <b>TV tokyo</b></span><br />
<br />
<a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/09/japan-broadcasting-television-network.html"><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-25hj-YVOYhA/Tl-o79zyxtI/AAAAAAAACvM/3f-zkI3uCao/s1600/tvtokyo.jpg" imageanchor="1" style="clear:left; float:left;margin-right:1em; margin-bottom:1em"><img border="0" height="82" width="150" src="http://3.bp.blogspot.com/-25hj-YVOYhA/Tl-o79zyxtI/AAAAAAAACvM/3f-zkI3uCao/s200/tvtokyo.jpg" /></a></div></a>ช่องนี้ดังเรื่อง <b>Anime</b> แฮะ จำได้ว่าสัญลักษณ์เขาเป็นปลาโลมาว่ายฉวัดเฉวียน เวลาดูการ์ตูนไปท้าย ๆเรื่อง แต่อย่างไรก็ดี มีละครด้วยนะเออ โดยเฉพาะ Drama 24 วันศุกร์เที่ยงคืนเป็นต้นไป วับ ๆ แวม ๆ วาบหวาม ถูกใจหนุ่ม ๆ แบบ <b>Shimokita Glory Day</b> เป็นต้น<br />
<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">7. <b>Tokai Television</b></span><br />
<br />
<a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/09/japan-broadcasting-television-network.html"><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgrmRm_lLMsX-J5Y-chH7HKbX1O71b4OXlVvOLg5oB-DTAPd_sP7LYQo3QiHSMrraZSOWVD1XLPR9yzMwNxUFmSNwKYi_5sGmfH4SWQ6Ygc9x66Pc9yTAfNxiq-PVLt3J2RxeIZeGIyx88/s1600/logo_tokai.gif" imageanchor="1" style="clear:left; float:left;margin-right:1em; margin-bottom:1em"><img border="0" height="45" width="150" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgrmRm_lLMsX-J5Y-chH7HKbX1O71b4OXlVvOLg5oB-DTAPd_sP7LYQo3QiHSMrraZSOWVD1XLPR9yzMwNxUFmSNwKYi_5sGmfH4SWQ6Ygc9x66Pc9yTAfNxiq-PVLt3J2RxeIZeGIyx88/s200/logo_tokai.gif" /></a></div></a>ลูกข่ายของฟูจิเค้าล่ะค่ะออกอากศแถบมิเอะ กิฟุ อะไรเทือกนั้น มีรายการของตัวเองด้วย เด่น ๆ คงเป็นละครบ่ายของเค้าล่ะค่ะ<br />
<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">8. <b>YTV หรือ Yomiuri TV</b></span><br />
<br />
<a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/09/japan-broadcasting-television-network.html"><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhy3Gz5ySQ59lbNiWykk6LEhVs6W9egRSHhOaV84RKj-RBUkG04irmRTXRVha7HofoKxTPojEWtdjfaxJ3Z-6bXYDtFKMAyF_iO21zR_ip6bL7hOzlpUCVNwEHJbYN5BM_o91gHwj06Gf4/s1600/ytv.jpg" imageanchor="1" style="clear:left; float:left;margin-right:1em; margin-bottom:1em"><img border="0" height="88" width="150" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhy3Gz5ySQ59lbNiWykk6LEhVs6W9egRSHhOaV84RKj-RBUkG04irmRTXRVha7HofoKxTPojEWtdjfaxJ3Z-6bXYDtFKMAyF_iO21zR_ip6bL7hOzlpUCVNwEHJbYN5BM_o91gHwj06Gf4/s200/ytv.jpg" /></a></div></a><br />
อันนี้มาจากแถบโอซาก้าโน่นค่ะ แต่ก็มีความร่วมมืออันดีกับ NTV ละครก็มีมั่งอ่ะค่ะ แต่น้อย แถมไม่ค่อยได้ยินชื่อซะอีก<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">9. <b>WOWOW</b></span><br />
<br />
<a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/09/japan-broadcasting-television-network.html"><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-HnLpxC4u9uw/Tl-pPW5ShvI/AAAAAAAACvk/aU_rtM3RREU/s1600/logo_wowow.jpg" imageanchor="1" style="clear:left; float:left;margin-right:1em; margin-bottom:1em"><img border="0" height="100" width="150" src="http://1.bp.blogspot.com/-HnLpxC4u9uw/Tl-pPW5ShvI/AAAAAAAACvk/aU_rtM3RREU/s200/logo_wowow.jpg" /></a></div></a>นี่น้องใหม่ทีวีแบบ pay station ค่ะ จ่ายก่อนดูเค้ามีรายการทีวีของตัวเองเลย (แบบไอทีวีสมัยก่อนละมั้ง) ชื่อนี้ก็มาจาก <b>Wow Wow</b> ค่ะ ตัว "W" 3 ตัว หมายความว่า<b> World-Wide-Watching</b> ซึ่งในฤดูใบไม้ผลินี้ WOWOW จะส่งละครยาวเรื่องแรกที่ทำเองออกฉาย ชื่อเรื่องว่า <b>Pandora</b> เป็นแนวลึกลับค่ะ<br />
<br />
<!--โฆษณารูปแบบ Image ขนาด 468X60 เพื่อแสดงบนเว็บ Doopladib --><script type="text/javascript" src="http://www.adyim.com/ac/?VmpGU1MyTnJPVlpPVlZaV1YwZFNVVlZyWkU5a1JtUlZVMVJXYUUxWVFsaFVNVkpEWWtaa1JsTnVUbFpTYlZKNldrVmFjMWRHY0VobFJYUnBZbFV3TVZaSGRGTlhhelZHWTBoU1lXVnRlRkJaVjNSR1QxRTlQUT09"></script><!--สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 01 ก.ย. 54 --><br />
<br />
ที่มา <a href="http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/05/A6570848/A6570848.html">www.pantip.com</a> ของคุณ <a href="http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/05/A6570848/A6570848.html">kimurafreek</a> เจ้าของกระทู้<a href="http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/05/A6570848/A6570848.html">เกร็ดความรู้คู่ซีรี่ย์ญี่ปุ่น</a> ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูลดีๆค่ะUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-13645270722604819842011-09-01T08:21:00.000-07:002011-09-07T11:27:55.318-07:00นักเขียนบทละครญี่ปุ่น<li>หากจะพูดถึงเรื่องละครแล้ว คงปฎิเสธไม่ได้ว่า "<b>บทละคร</b>" เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างมากต่อความสำเร็จหรือเรตติ้งของละครเรื่องนั้น ๆ<br />
<br />
<li>ละครเดินเรื่องสนุกฉับไว เนื้อหาน่าสนใจ ไดอะล็อกเฉียบคม ล้วนเป็นผลงานจากมันสมองคนเขียนบททั้งนั้น หรือแม้แต่บทละครที่มาจาก มังงะ หรือ นิยาย ต่าง ๆ ก็ต้องอาศัยฝีมือคนเขียนบทปรับให้เหมาะกับการเป็นละครเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าบทละครคงไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้ละครสนุกน่าสนใจ ยังต้องอาศัยทีมงาน นักแสดง ผู้กำกับ และอีกหลายประการ แต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้าหากบทห่วยไปเพียงอย่างเดียว ต่อให้มีนักแสดงขั้นเทพ ผู้กำกับมือพระกาฬ ทีมงานชั้นเลิศ ละครที่ควรเปล่งประกายก็อาจถึงคราวซวยได้เช่นกัน<br />
<br />
เป็นที่น่าเสียดายพอเราพูดถึงละครสนุก ละครดี ก็จะชื่นชมดารานักแสดงซะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีใครรู้จักคนเขียนบทกันเท่าไหร่ เอ้า อย่ากระนั้นเลย ... ในวันนี้เรามารู้จัก นักเขียนบทละครยอดฝีมือของญี่ปุ่นกันเถอะค่ะ <b>นักเขียนบทละครญี่ปุ่น</b>คนแรกคือ<br />
<br />
1. <b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">คิตากาว่า เอริโกะ Kitagawa Eriko : ราชินีละครรัก</span></b><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-vTAqS_1ly0k/TmKbAk0bBGI/AAAAAAAADB0/4kIqj4pJrNo/s1600/KitagawaEriko.jpg" imageanchor="1" style="clear:left; float:left;margin-right:1em; margin-bottom:1em"><img border="0" height="200" width="150" src="http://2.bp.blogspot.com/-vTAqS_1ly0k/TmKbAk0bBGI/AAAAAAAADB0/4kIqj4pJrNo/s200/KitagawaEriko.jpg" /></a></div><br />
ไม่รู้ปีนี้ปีสตรีสากลรึเปล่า แต่อยากเอาชื่อเธอขึ้นเป็นคนแรก เพราะติดตามผลงานของเธอมานาน เธอคนนี้สมญานามคือ <b>ราชินีละครรัก</b> ค่ะ สไตล์ของคิตางาวะ เอริโกะ จะเขียนบทละครรักโรแมนติกซะส่วนใหญ่ หากเป็นคนที่สร้างคาแรคเตอร์ตัวละครได้หลากหลาย และ ให้อารมณ์ที่ลึกซึ้ง<br />
<br />
เธอสร้างชายหนุ่มใสซื่อ,เอาจริงเอาจัง อย่าง นัตสึเมะ ใน <b>Saigo no koi</b><br />
สร้างหนุ่มน้อยขี้อายแต่ก็เปี่ยมด้วยอารมณ์และความฝัน อย่าง ฮิเดโตชิ เซนะ<br />
สร้างผู้ชายหนักแน่นจริงจัง,เข้มแข็งและเป็นผู้ใหญ่อย่าง โอคิชิม่า ชูจิ ใน <b>Beautiful Life</b><br />
ตัวละครหญิงของเธอก็เช่นกันแม้จะอยู่ในโทนเรื่องโรแมนติกเธอก็สามารถสร้างคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันไปได้<br />
<div style="float:right;"><!--โฆษณารูปแบบ Image ขนาด 200X200 เพื่อแสดงบนเว็บ Doopladib --><script type="text/javascript" src="http://www.adyim.com/ac/?VmpGU1MyTnJPVlpPVlZaV1YwZG9VRmxYZUVka1JtUlZVMVJXYUUxWVFsaFVNVkpEWWtaa1JsTnVUbFpTYlZKNldrVmFjMWRHY0VobFJYUnBZbFV3TVZaR1pIZFJiVkYzWTBoU1lXVnRlRTlaVjNSSFRYYzlQUT09"></script><!--สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 02 ก.ย. 54 --></div><br />
อย่างไรก็ดี ... แม้เธอจะเขียนบทละครรักโรแมนติกซะส่วนใหญ่ แต่เมื่อเธอเขียนละครแนวลึกลับสืบสวนเธอก็ทำได้ดี ใครจะเชื่อว่านักเขียนบทที่เขียน <b>Asunaro Hakusho, Aishiteru to ittekure, Long Vacation, Beautiful Life, Orange day, Tatta hitotsu no koi, Love Story </b>จะเป็นคนเดียวกับที่เขียน <b>One million star falling from the sky</b> ใครจะคิดว่าคนที่สร้างสรรค์เซนะคุง ชูจิคุง จะเป็นคนเดียวกับที่สร้างผู้ชายอันตรายอย่าง คาตาเสะ เรียว!! สรุปสุดท้ายก็บอกได้ว่า หากมองหาละครรักโรแมนติก จำชื่อ คิตางาวะ เอริโกะ เอาไว้ไม่ผิดหวังค่ะ<br />
<br />
2. <b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">โนจิม่า ชินจิ Nojima Shinji : เรื่องรักหักมุม</span></b><br />
ถ้าจะนับคิตางาวะ เอริโกะ เป็นนักเขียนบทมือทองฝ่ายหญิง โนจิม่า ชินจิ คงจะเป็นนักเขียนบทมือทองฝ่ายชายค่ะ โนจิม่าซังเขียนเรื่องได้หลายแนว ไม่ว่าแนวโรแมนติค แนวลึกลับ แนวครอบครัว แต่ความเด่นของโนจิม่าที่คิมุสังเกตเห็น คือ เรื่องปม การหักมุม หรือ ความแปลกของเนื้อเรื่องค่ะ<br />
<br />
ละครที่ทำให้โนจิม่าซังโดดเด่นขึ้นมาคงหนีไม่พ้น <b>101 proposal</b> คุ้น ๆ ใช่มั้ยคะ ใครทันดูตื้อรักนายกระจอกบ้างเอ่ย ถ้าเก่าไปไม่เป็นไร... ใครจำ Hitotsu yane no shita ได้บ้างคะ 1+5 มารักกันนะ นี่ก็เป็นผลงานของโนจิม่า ชินจิ เช่นเดียวกัน ละครที่เด่นในเรื่องการหักมุมของโนจิม่าซัง เช่น <b>Stawberry on the short cake, Bara no nai hanaya, Lipstick</b> ละครรักก็เช่น <b>Pride</b>,<b>Golden Bowl</b><br />
<br />
3. <b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">ฟุคุดะ ยาสึชิ Fukuda Yasushi : อารมณ์ขันแสบทรวง</span></b><br />
เปล่านะคะคุณฟุคุดะไม่ได้เขียนบทละครแบบเฮฮาติงต๊อง แต่เป็นอารมณ์ขันแบบเสียดสี ประชดนิด ๆ จิกกัดหน่อย ๆ ไม่เน้นโรแมนติค<br />
<br />
ฟุคุดะซังทำบทละครที่เดินเรื่องด้วยอาชีพได้ดีค่ะ อาทิเช่น <b>ฮีโร่(Hero)</b> และ <b>กาลิเลโอ(Galileo)</b> ถ้าใครอยากชมละครที่อัดแน่นด้วยเนื้อหาสาระ พร้อมแต่งแต้มด้วยอารมณ์ขันแสบ ๆ คัน ๆ ก็ลองติดตามผลงานของคุณ ฟุคุดะ ดูนะคะ ผลงานล่าสุดของคุณ ฟุคุดะ คือ CHANGE นั่นเองค่ะ<br />
<br />
4. <b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">อาซาโนะ ทาเคะโอะ Asano Taeko : เรื่องรักหลากรส</span></b><br />
<br />
<div style="float: left;"><script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib 250*250 Text */
google_ad_slot = "0625022280";
google_ad_width = 250;
google_ad_height = 250;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script></div>อยากได้รักแบบไหน อาซาโนะซังจัดให้ รักของหนุ่มสาวชาวเมืองอย่าง <b>Love Generation</b> รักระหว่างรบอย่าง <b>Love 2000</b> รักนิรันดร์แบบ <b>Kamisama mou sukoshi dake</b> หรือจะเป็นรักวัยรุ่นล่าสุดอย่าง <b>Last Friends</b> มองหาเรื่องรักหลายสไตล์ต้อง อาซาโนะ ทาเคโอะ ค่ะ<br />
<br />
5. <b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">อิซึมิ โยชิฮิโระ Yoshihiro Izumi : ละครครอบครัวยกให้เขา</span></b><br />
ละครส่งเสริมสถาบันครองครัวปนขำขัน สร้างเสริมความเข้าใจในครอบครัว เมื่อลูกสาวอยากมีแฟน เมื่อลูกสาวจะแต่งงาน เมื่อลูกอยากจะออกไปอยู่ข้างนอก หรือ มีปัญหาหย่าร้าง อ๊า....จะทำอย่างไรดี หาแง่คิด หามุมมอง ของคนในครอบครัวผ่านบทละครของคุณ อิซึมิ ได้เลยค่ะ เป็นต้นว่า <b>Moko dono, Papa to musume, Hito ni yasashiku</b> ค่ะ ผลงานล่าสุดของคุณ อิซึมิ คือ <b>Rookies</b> นะคะ<br />
<br />
6. <b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">โอชิมะ ซาโตมิ Oshima Satoshi : ละครเรียกน้ำตา</span></b><br />
แม้ว่าผลงานที่ผ่านมาของโอชิมะซังจะเป็นการดัดแปลงบทประพันธ์(หมายถึงไม่ได้คิดพล็อตเอง) แต่ฝีไม้ลายมืออันเฉียบขาดของเธอในการเรียกน้ำตาผู้ชมใน น้ำตาหนึ่งลิตร และ <b>Tokyo tower ~ me mom and somtimes dad</b> ก็การันตีฝีมือได้อย่างดี การคิดเรื่องเองก็ยากตรงต้องใช้จินตนาการมาก ๆ แต่การเขียนบทละครที่ต้องดัดแปลงจากบทประพันธ์ก็ยากเหมือนกัน ดัดแปลงอย่างไรไม่ให้เสียอรรถรส ดัดแปลงอย่างไรไม่ให้ออกทะเล ถือว่าเธอคนนี้มีความสามารถอย่างยิ่งค่ะ <br />
<br />
<script type="text/javascript">
<!--
ad_partner="20110713587238782";
ad_website="2011071954748308";
ad_zone="20110720200913409";
ad_format="20080422569846860";
ad_type="tm";
ad_color_border="FFFFFF";
ad_color_bg="FFFFFF";
ad_background="";
ad_color_title="0000CC";
ad_color_text="32629E";
ad_color_url="CC3399";
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript" src="http://ads.bumq.com/ad_show2.js"></script><br />
<br />
ที่มา กระทู้ <a href="http://www.blogger.com/www.pantip.com">www.pantip.com</a> ของคุณ<a href="http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/05/A6570848/A6570848.html"> kimurafreek</a> เจ้าของ<a href="http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/05/A6570848/A6570848.html">กระทู้เกร็ดความรู้คู่ซีรี่ย์ญี่ปุ่น</a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-67509426784811807452011-09-01T07:50:00.000-07:002011-09-07T11:27:18.239-07:00สำนวนเด็ดของรุ่นพี่เหล่าเหม่ยเย่<a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/09/yuichi-kimura-honey-and-clover-series.html"><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-wumyW4JEDII/TmC3j6OGnxI/AAAAAAAAC9k/hvqXDpklSWM/s1600/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2588.jpg" imageanchor="1" style="clear:left; float:left;margin-right:1em; margin-bottom:1em"><img border="0" height="124" width="158" src="http://4.bp.blogspot.com/-wumyW4JEDII/TmC3j6OGnxI/AAAAAAAAC9k/hvqXDpklSWM/s200/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2588.jpg" /></a></div></a><br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;"><b>รุ่นพี่เหล่าเหม่ยเย่</b><b> ซีรี่ย์ Honey and Clover</b> สำนวนเด็ดๆของรุ่นพี่ช่างกินใจจริงๆ</span><br />
<br />
- ไม่ใช่เพราะความสะอาดของห้องนี้หรอกที่ทำให้เรามารวมตัวกัน แต่เป็นเพราะหัวใจอันงดงามของนายต่างหาก<br />
<br />
- ถ้ามัวแต่ลังเลก็ชนะใจเธอไม่ได้หรอก ขอให้พยายามเข้านะ<br />
<br />
- ล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า บ่มเพาะเป็นประสบการณ์เพื่อเอาชนะ นี่สิเจ๋งจริง<br />
<br />
<br />
- <span class="Apple-style-span" style="color: red;">ได้ไม่ได้ ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่ที่ใจ</span>นั่นแหละ คำว่า "ต้องทำได้"นี่แหละ คือพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด เป็นได้หรือไม่ได้นั้น ไม่ใช่อยู่ที่ใครมาตัดสิน แต่เป็นเพราะการตัดสินใจของตัวเราเองต่างหาก<br />
<br />
- จะจักรยานหรือคนก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะมอมแมมแค่ไหน ถ้าพยายามขัดสีฉวีวรรณมันแล้ว ย่อมจะกลับมาส่องประกายแวววาวดังเดิมได้ แต่ว่ายังมีสิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าจะลบยังไง ก็ไม่มีวันลบออก นั่นก็คือ...มิตรภาพระหว่างกัน<br />
<br />
- ว่ากันว่าความรักนั้นก็เหมือนการตีแตงโม แค่เดินตามสัญชาตญาณของตัวเองและเสียงของคนรอบข้าง เพ่งจิตไปยังสิ่งที่คลุมเครือนั้น แล้วหวดไม้ลงไปอย่างเต็มแรง <span class="Apple-style-span" style="color: red;">ปิดตาตีแตงโมก็เปรียบเหมือนการฝึกฝนการคาดการณ์หนทางแห่งรัก</span> จะเชื่อในเสียงจากคนรอบข้างหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ทั้งการปิดตาตีแตงโมและความรัก จุดนี้ล่ะที่ยากที่สุด<br />
<br />
- ก่อนจะบอกให้เขาดูแลตัวเองดีๆน่ะ สิ่งสำคัญก็คือ ตัวเราต้องแข็งแรงก่อน<br />
<br />
- ก่อนจากกัน ขอให้จากกันด้วยรอยยิ้มดีกว่า รอยยิ้มนั่นน่ะจะทำให้ทุกคนอยากจะกลับมาพบกันอีกครั้ง<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">** <b>Sempai แปลว่า รุ่นพี่ </b>** </span><br />
<div style="float:right;"><script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib 250*250 Text */
google_ad_slot = "0625022280";
google_ad_width = 250;
google_ad_height = 250;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
</div><br />
<!--โฆษณารูปแบบ Image ขนาด 250X250 เพื่อแสดงบนเว็บ Doopladib --><script type="text/javascript" src="http://www.adyim.com/ac/?VmpGU1MyTnJPVlpPVlZaVVYwZFNVRmxYTVd0a1JtUlZVMVJXYUUxWVFsaFVNVkpEWWtaa1JsTnVUbFpTYlZKNldrVmFjMWRHY0VobFJYUnBZbFV3TVZaR1pIZFdiVkYzWTBoU1lXVnRlRTlaVjNoWFRYYzlQUT09"></script><!--สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 02 ก.ย. 54 -->Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-31632708445260721282011-09-01T07:08:00.000-07:002011-09-07T11:30:19.231-07:00Ken Hirai Japanese Singer<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-TxfBkrolm58/Tl-I1aELTPI/AAAAAAAACuM/s2OJF_dsq1U/s1600/ken%2Bhirai.JPG" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="200" src="http://2.bp.blogspot.com/-TxfBkrolm58/Tl-I1aELTPI/AAAAAAAACuM/s2OJF_dsq1U/s200/ken%2Bhirai.JPG" width="179" /></a></div><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Ken Hirai (เคน ฮิราอิ) </span>เข้าเซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัด Sony Records ในปี 1993 จากการคว้ารางวัลในรายการ Sony Music Entertainment Audition~TV Asahi Video Jam Award โดยผ่านคัดเลือกจากทั้งหมด 7,500 คนทั่วญี่ปุ่น ซึ่งขณะนั้นยังเป็นนักศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย <br />
<br />
ถึงแม้ว่าแนวเพลงของ single แรกจะไม่เข้า chart และไม่เข้าหูสักเท่าไรแต่ single ที่สอง ที่สาม และอัลบัมแรกได้ทยอยออกมาในปลายปีเดียวกัน ความพยายามที่ดูเหมือนว่าจะไร้ผลกลับฉายแววเมื่อ single ที่เจ็ด "Love Love Love" release ในปี 1998 เริ่มได้รับการตอบรับถึงแม้จะจำกัดในวงแคบจากแฟน J-POP คอ R&B <br />
<br />
เอาเข้าจริงๆ แล้ว ทันทีที่ผ่านพ้นสู่ Millenium ในเดือนมกราคม single ที่แปด "Raku-en" ที่ได้โปรดิวเซอร์มือดีคนเดียวกับที่ทำให้ Utada Hikaru ดังข้ามโลกมาร่วมงาน ชื่อของ Ken Hirai เป็นที่ฮือฮาหลังจาก on air ทางวิทยุในวันแรกตามติดด้วย single ที่เก้า "Why" ที่ทะยานเข้าสู่อันดับ 8 ของ Oricon Chart ทันที <br />
<br />
และเมื่อถึงคราวจะดังอะไรก็ยั้งไม่อยู่ กลางปี 2000 Ken Hirai ได้เกียรติรับเชิญจาก Apollo Theater ไปร่วมงาน Amateur Night ในนิวยอร์ก ที่ซึ่งไม่ต้องการคำบรรยายมากมายเนื่องด้วยเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นเวทีที่มีไว้ "แจ้งเกิด" สำหรับศิลปินดังๆ ของฝั่งอเมริกาอย่างเช่น James Brown, Micheal Jackson, Lauryn Hill และ Ken Hirai เป็นศิลปินญี่ปุ่นคนแรกที่ได้ไปเหยียบบนเวทีนั้น <br />
<br />
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นผลจากความบังเอิญหรือเป็นเพราะโชคช่วยแต่อย่างใด พื้นฐานที่ดีในการขับร้องประกอบกับพรสวรรค์ที่ติดตัวมาส่งผลให้เสียงทรงพลังอันนุ่มเพราะเสนาะโสตนั้นมีรางวัลจาก Sony เป็นประกัน ยิ่งไปกว่านั้นเทคนิคการขึ้นเสียงสูงเป็นที่ทราบกันดีในบรรดาขาคาราโอเกะว่าเพลงของ Ken Hirai แต่ละเพลงนั้นเป็นเพลงที่อยู่ในระดับความยาก "มาก" แทบทั้งสิ้น <br />
<br />
ว่ากันว่า Ken Hirai เคยมี studio ส่วนตัวสำหรับการซุ่มซ้อมวิธีการร้องอยู่ที่ Yokosuka ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลเล็กๆในเขตใกล้ Yokohama ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่ Yokohama City University ซึ่งที่นั่นมีฐานทัพอเมริกันและอาจเป็นที่ที่ Ken Hirai ใช้ฝึกฝนภาษาอังกฤษจากทหารอเมริกันที่อยู่ในละแวกนั้นก็เป็นได้ จะจริงเท็จอย่างไรก็ตามสิ่งที่ประจักษ์ในปัจจุบันคือ Ken Hirai มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษอยู่ในขั้นที่ถือว่า excellent ทั้งสำนวนและสำเนียงมีความใกล้เคียงกับเจ้าของภาษาจนยากที่จะเชื่อได้ว่าเติบโตมาในญี่ปุ่น <br />
<br />
ในปี 2003 เขาได้รับเกียรติเชิญชวนจาก MTV ให้เดินทางไปเปิดคอนเสิร์ต MTV Unplugged Ken Hirai ในนิวยอร์กซึ่งเป็นคอนเสิร์ตเรียบง่ายและผ่อนคลายในบรรยากาศที่เป็นกันเอง แต่ละมุกที่ดึงมาใช้นั้นตอกย้ำถึงความเป็น entertainer ตัวฉกาจที่ perform ได้ยอดเยี่ยมทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น <br />
<br />
จากแนวโน้มความนิยมศิลปินเพลงในปัจจุบันรูปลักษณ์ภายนอกก็เป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งที่มีสำคัญไม่น้อยไปกว่างานเพลงคุณภาพ ด้วยส่วนสูง 183 ซม. กอปรกับรูปหน้าที่ละม้ายไปทางตะวันตกมากกว่า Prototype japanese ก่อให้เกิดคำถามในช่วงแรกว่า Ken Hirai เป็นลูกครึ่งหรือไม่? คำตอบคือ ไม่ เขาเป็นคนญี่ปุ่น 100% เกิดที่โอซากา ใช้ชีวิตวัยเด็กในจังหวัด Mie และข้ามมาเรียนในระดับมหาวิทยาลัยที่โยโกฮามา <br />
<br />
อย่างไรก็ตาม ภายใต้บริบทดังกล่าวแล้วจึงไม่ผิดหากจะกล่าวว่า Ken Hirai เป็นทั้ง idol และ icon ที่สมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่งในวงการ J-POP ประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปีมีส่วนผลักดันให้เขาได้ดึงความสามารถที่<br />
<br />
ซ่อนอยู่ภายในออกมาใช้ในงานแต่งเพลง แทบทุกเพลงที่ขึ้นไปติดอันดับหนึ่งของทุก chart ในญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2002 เป็นเพลงที่แต่งโดย Ken Hirai และมีโปรดิวเซอร์ใหม่ระดับมือโปรอย่าง Seiji Kameda ที่ produce ให้กับวง Spitz ดังควบคู่กันไป เนื้อเพลงที่มีเนื้อหาซึ้งกินใจอย่างเช่น "Ring", "Life is...Another Story" ถูกใช้เป็นเพลงประกอบละคร ส่วน single ที่ยี่สิบ "Hito mi wo Tojite" คว้าทั้งตำแหน่ง Best song of the year 2004 และ MTV VDO Music Award Japan 2005 และ single ล่าสุด "Omoi ga kasanarusonomaeni" ใช้เป็นเพลงโฆษณาโตโยตา เมื่อปลายปีที่ผ่านมา <br />
<br />
ในระยะหลังยอดขายของซีดีในญี่ปุ่นมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งมาจากธุรกิจร้านเช่าแผ่นซีดีที่มีราคาถูกสามารถ dub ลงคอมพิวเตอร์หรือ mp3 ได้ซึ่งเป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทางบริษัทต้นสังกัดผลิตแผ่นซีดี single ของ Ken Hirai ให้มีลักษณะพิเศษสามารถป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ถึงแม้จะยังป้องกันไม่ได้ทั้งหมดก็ตามแต่อย่างน้อย ซีดีรูปแบบใหม่นี้ได้เป็นแบบอย่างให้ศิลปินอื่นนำไปใช้ได้ <br />
<br />
10 ปีผ่านไปทุกวันนี้ Ken Hirai กลายเป็นที่รู้จักของคนญี่ปุ่นทั่วไป งานเพลงแต่ละเพลงที่ยิ่งออกก็ยิ่งดัง จึงไม่น่าแปลกใจที่ตั๋วคอนเสิร์ตของ Ken Hirai จะขายดิบขายดี อีกทั้งยังมีตั๋วที่ถูกนำไปโก่งราคาสูงลิบ อย่างล่าสุด Ken Hirai 10th Anniversary Tour ที่เปิดแสดงทั่วญี่ปุ่น 29 รอบตั้งแต่ Hokkaido, Aomori จนถึง Hiroshima, Kyushu และที่ Okinawa โดยเฉพาะตั๋วรอบสุดท้ายในวันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม 2005 ที่ Saitama Super Arena มีการนำตั๋วที่จองได้ไปขายใน auction ราคาหลายหมื่นเยน ยิ่งถ้าเป็นตั๋วแถวหน้าด้วยแล้วราคาตกเป็นหลักแสนเยนจากราคาหน้าบัตร 6,800 เยน <br />
<br />
ที่มา <a href="http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=36272">www.gotomanager.com</a><br />
<br />
<script src="http://www.adyim.com/ac/?VmpGU1MyTnJPVlpPVlZaV1YwZFNVVlZyWkU5a1JtUlZVMVJXYUUxWVFsaFVNVkpEWWtaa1JsTnVUbFpTYlZKNldrVmFjMWRHY0VobFJYUnBZbFV3TVZaSGRGTlhhelZHWTBoU1lXVnRlRkJaVjNSR1QxRTlQUT09" type="text/javascript">
</script><br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Ken Hirai 15th Anniversary c/w Collection '95-'10 Disc 1</span><br />
<br />
<div style="float: left;"><iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="180" src="http://www.youtube.com/embed/asR64LIpGa4?fs=1" width="220"></iframe></div>01 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15749449/Ken_1-01.zip.html">オルゴール</a> <br />
02 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15749448/Ken_1-02.zip.html">かくれんぼ</a> <br />
03 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15749450/Ken_1-03.zip.html">アヒル</a> <br />
04 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15749740/Ken_1-04.zip.html">Go Ahead</a> <br />
05 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15749741/Ken_1-05.zip.html">スウィートルーム</a> <br />
06 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15749739/Ken_1-06.zip.html">キャッチボール</a> <br />
07 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15749931/Ken_1-07.zip.html">強くなりたい</a> <br />
08 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15749932/Ken_1-08.zip.html">君が笑ったら</a><br />
09 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15749930/Ken_1-09.zip.html">Affair</a> <br />
10 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15750138/Ken_1-10.zip.html">What's Goin' On?</a> <br />
11 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15750140/Ken_1-11.zip.html">Wonderful world </a> <br />
12 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15750139/Ken_1-12.zip.html">TABOO</a><br />
13 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15750576/Ken_1-13.zip.html">GREEN CHRISTMAS</a> <br />
14 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15750575/Ken_1-14.zip.html">TUG OF WAR</a> <br />
15 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15750573/Ken_1-15.zip.html">CAT</a> <br />
16 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15750574/Ken_1-16.zip.html">One Love Wonderful World </a> <br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Ken Hirai 15th Anniversary c/w Collection '95-'10 Disc 2</span><br />
<br />
<div style="float: left;"><iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="180" src="http://www.youtube.com/embed/nR8wSplX4qc?fs=1" width="220"></iframe></div>01 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15762132/Ken_2-01.zip.html">ex-girlfriend</a><br />
02 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15762134/Ken_2-02.zip.html">PAUL</a><br />
03 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15762131/Ken_2-03.zip.html">somebody's girl</a><br />
04 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15762133/Ken_2-04.zip.html">まばたき</a><br />
05 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15761467/Ken_2-05.zip.html">signal</a><br />
06 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15761465/Ken_2-06.zip.html">jealousy</a><br />
07 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15761469/Ken_2-07.zip.html">ため息キップ</a><br />
08 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15761466/Ken_2-08.zip.html">hug</a><br />
09 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15761585/Ken_2-09.zip.html">Kiss</a><br />
10 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15761582/Ken_2-10.zip.html">美しい人</a><br />
11 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15761583/Ken_2-11.zip.html">Cry & Smile!!</a><br />
12 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15761584/Ken_2-12.zip.html">フルサ・サイーダ</a><br />
13 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15761747/Ken_2-13.zip.html">Do it!!</a><br />
14 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15761746/Ken_2-14.zip.html">一人じゃない</a><br />
15 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15761745/Ken_2-15.zip.html">Catch you</a><br />
16 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15762011/Ken_2-16.zip.html">太陽</a> <br />
17 Ken Hirai - <a href="http://www.ziddu.com/download/15762012/Ken_2-17.zip.html">HOTEL VAMPIRE</a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-42038094366997854052011-08-21T18:00:00.000-07:002011-09-05T13:59:23.985-07:00คุณอยาก Install インストール ตัวเองบ้างไหม<!--โฆษณารูปแบบ Image ขนาด 468X60 เพื่อแสดงบนเว็บ Doopladib --><script type="text/javascript" src="http://www.adyim.com/ac/?VmpGU1MyTnJPVlpPVlZaV1YwZFNVVlZyWkU5a1JtUlZVMVJXYUUxWVFsaFVNVkpEWWtaa1JsTnVUbFpTYlZKNldrVmFjMWRHY0VobFJYUnBZbFV3TVZaSGRGTlhhelZHWTBoU1lXVnRlRkJaVjNSR1QxRTlQUT09"></script><!--สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 01 ก.ย. 54 --><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhdBHWZSI5vK5hklSDYLtx3d0bjPVXpptCjHf_aoNhVvsNRTMNTszkCYVszQEW9f06MCdu6RW6e6_iLOjHl72oYFRiY1wH2KGP2JCBf4QA0B6Ng9l0OQj8fauYN_X5-bRm_RU05Pc13c-g/s1600/Install__Japanese.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhdBHWZSI5vK5hklSDYLtx3d0bjPVXpptCjHf_aoNhVvsNRTMNTszkCYVszQEW9f06MCdu6RW6e6_iLOjHl72oYFRiY1wH2KGP2JCBf4QA0B6Ng9l0OQj8fauYN_X5-bRm_RU05Pc13c-g/s320/Install__Japanese.jpg" width="201" /></a></div><br />
<b>Install (インストール)</b> is a 2004 Japanese film based on a Risa Wataya novel and directed by Kei Kataoka.<br />
<br />
<b>Plot</b><br />
Asako is an attractive 17-year-old high school girl who decides to take a day off from school and contemplate her life. She meets a 10-year-old boy named Aoki who teaches her all about Internet chat rooms and the ease of earning money engaging in cybersex with strangers who either don't know or don't care that they may be getting off by chatting with people who may or may not be who they claim.<br />
<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">เรื่องราวการค้นหาตัวตนของเด็กสาวมอปลาย สร้างจากหนังสือขายดีของญี่ปุ่น </span><br />
<br />
อาซาโกะ (Aya Ueto )นักเรียนสาวช่างฝันวัย 17 ปี ถูกทำลายจินตนาการ ด้วยระบการศีกษาที่น่าเบื่อหน่าย จนในที่สุดเธอก็ละทิ้งการเรียนและเริ่มเก็บตัวอยู่ในบ้านโดยที่แม่ไม่รู้ ด้วยความพยายามที่จะกลับมาเป็นคนเดิมที่สดใสอีกครั้ง เธอได้พาความเป็นคัวตนออกจากห้องไปสู่ที่ทิ้งขยะของอพาร์ตเมนต์ ที่นั่นเธอได้พบกับ คาซุโยชิ (Ryunosuke Kamiki) เด็กน้อยอัจฉริยะวัย 10 ขวบ ที่บอกว่าอยากจะได้คอมพิวเตอร์เครื่องเก่าของเธอ พร้อมด้วยข้อเสนอที่เธอไม่อาจปฎิเสธได้ “ทำไมไม่มาร่วมกลุ่มกับผมและทำงานร่วมกันล่ะ”<br />
<br />
ด้วยความแปลกใจเมื่อเธอแอบมองห้องนอนของเด็กน้อยก็พบว่า คาซุโยชิกำลังอยู่ในแชทรูมเกี่ยวกับเรื่องเพศโดยใช้นามแฝงว่า มิยาบิ เพียงครั้งแรกก็พิสูจน์ให้อาซาโกะเห็นว่า แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์ในการใช้คอมพิวเตอร์มากนัก แต่การได้ลองสัมผัสกับความรู้จากจากเพศตรงข้ามที่เต็มไปด้วยสิ่งยั่วยวนทางเพศเช่นนี้ มันก็ได้นำเธอไปสู่โลกของผู้ใหญ่ที่น่าเบิกบานไม่น้อย ความรู้สึกใหม่ที่ได้นำเธอไปสู่อาณาจักรแห่งความเป็นไปได้ที่ไม่เคยพบมาก่อน แต่จะไกลแค่ไหนล่ะที่เธอต้องการ<br />
<br />
<embed flashvars="host=picasaweb.google.com&hl=th&feat=flashalbum&RGB=0x000000&feed=https%3A%2F%2Fpicasaweb.google.com%2Fdata%2Ffeed%2Fapi%2Fuser%2F108309216420841219097%2Falbumid%2F5648231111501443649%3Falt%3Drss%26kind%3Dphoto%26authkey%3DGv1sRgCJf-i5z87cTIGg%26hl%3Dth" height="267" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" src="https://picasaweb.google.com/s/c/bin/slideshow.swf" type="application/x-shockwave-flash" width="400"></embed><br />
<br />
<div style="float: right;"></div><b>Cast</b><br />
Aya Ueto ... Asako Nozawa<br />
Ryunosuke Kamiki ... Kazuyoshi Aoki<br />
Shichinosuke Nakamura ... Kouichi<br />
Rei Kikukawa ... Momoko-sensei<br />
Hijiri Kojima ... Kayori<br />
Yoshiko Tanaka ... Megumi Kasa<br />
<br />
<br />
ที่มา <a href="http://eiga.wikia.com/wiki/Install">eiga.wikia.com/wiki/Install</a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-35284655957897809732011-08-16T19:34:00.000-07:002011-09-07T11:26:23.357-07:00เมื่อยากุซ่ามาเป็นราคุโกะ Tiger and Dragon พยัคฆ์ตัดมังกร<a href="http://www.blogger.com/post-edit.g?blogID=5865807742219698580&postID=3528465595789780973"></a><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://www.blogger.com/post-edit.g?blogID=5865807742219698580&postID=3528465595789780973"></a><a href="http://3.bp.blogspot.com/-tV1KqF5ySa0/TkhJRCmEkyI/AAAAAAAACFg/KAMBigDmXfY/s1600/Tiger_%2526_Dragon.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="200" src="http://3.bp.blogspot.com/-tV1KqF5ySa0/TkhJRCmEkyI/AAAAAAAACFg/KAMBigDmXfY/s200/Tiger_%2526_Dragon.jpg" width="141" /></a></div><b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Tiger and Dragon พยัคฆ์ตัดมังกร</span></b><br />
<br />
<b>โคโทระ (Nagase Tomoya )</b> ยากุซ่าสุดเก๋า แต่ไหงกลับอยากเป็นนักแสดงตลกแบบเล่าเรื่อง นั่นก็เพราะหัวหน้าคณะตลกติดเงินหัวหน้าแก้งค์ไว้ หน้าที่ของเค้าคือจะต้องทวงหนี้ 4 ล้านให้หมดจึงจะออกจากการเป็น<b>ยากุซ่า</b>ได้ <br />
<br />
โคโทระจึงเสนอให้<b>ดอนเบอิ (Nishida Toshiyuki)</b> สอน<b>ราคุโกะ (Rakugo)</b>ให้เขาโดยเขาจะจ่ายให้เรื่องละ 1 แสนเพื่อใช้หนี้ เพราะโคโทระเองก็อยากที่ออกจากวงการยากุซ่าเลยต้องหาอาชีพสำรองกันสักหน่อย ตัวซีรีย์นำเสนอชีวิตจริงของตัวละครกับบทบาทสมมุติในเรื่องตลกตัดสลับกันได้อย่างลงตัว<br />
<br />
** <b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">ราคุโกะ Rakugo</span></b> – เป็นศิลปะการใช้คำพูดเพื่อสร้างความสนุกสนานหรือตลกขบขัน เรียกตามภาษาบ้านเราก็คือมุขตลกนั่นเอง ซึ่งมีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นการแสดงจะเน้นการพูดเล่ามุขตลกเป็นหลัก เวลาแสดงผู้แสดงจะนั่งเล่าเหมือนกับมานั่งเล่าเรื่องให้ฟัง อาจมีการแสดงมือไม้ประกอบบ้าง แต่จะไม่มีการลุกมารำ,เต้น หรือมีดนตรีประกอบ ในบางที่ก็อาจจะมีเพลงบรรเลงประกอบบ้าง **<br />
<br />
** ที่มา <a href="http://www.kaededay.com/lms/mod/forum/discuss.php?d=1399">www.kaededay.com</a> **<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: red;">@@</span> แต่ละตอนจะเล่าราคุโกะ ทุกเรื่องที่เล่าไม่ได้เน้นแค่สนุกอย่างเดียวแต่ยังมี สาระสอดแทรกอยู่ด้วย คนไทยอาจจะไม่ขำไม่เข้าใจบางมุขบ้าง แต่โดยรวมดูแล้วก็ได้ทั้งความสนุกและข้อคิดต่างๆ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับยากุซาที่มีฉากตีกัน,กินเหล้า,สูบบุหรี่ อยู่เยอะ แต่สาระเนื้อเรื่องหลักๆที่มาพร้อมความสนุกก็ทำให้เราไม่ใส่ใจนั้นส่วนนั้นไป ผิดกับละครบ้านเราฉากกินเหล้าสูบบุหรี่ไม่มีให้เห็นในทีวีหรอก จะมีก็ตบตีกัน ส่วนสาระข้อคิดต่างๆที่ได้จากการดูละคร ดูจบแล้วได้อะไรบ้าง ??? เออ...จบแล้วก็ได้รู้ว่าพระเอกเป็นตำรวจที่ปลอมตัวมาเป็นสายลับ,นางเอกเป็นลูกของมหาเศรษฐี,พระเอกนางเอกเข้าใจกัน,แต่งงานกัน ทุกคนมีความสุขแฮปปี้ไง <span class="Apple-style-span" style="color: red;">@@</span><br />
<br />
<div style="text-align: center;"><iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="250" src="http://www.youtube.com/embed/hN6R0KkmdRw?fs=1" width="350"></iframe></div><br />
<script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib 468*60 Te */
google_ad_slot = "0155118118";
google_ad_width = 468;
google_ad_height = 60;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script><br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;"><b>Awards</b></span><br />
45th Television Drama Academy Awards: Best Drama<br />
45th Television Drama Academy Awards: Best Actor: Nagase Tomoya<br />
45th Television Drama Academy Awards: Best Supporting Actor Nishida Toshiyuki<br />
45th Television Drama Academy Awards: Best Screenwriter: Kudo Kankuro<br />
45th Television Drama Academy Awards: Best Director: Kaneko Fuminori, Katayama Osamu, Tsuboi Toshio<br />
45th Television Drama Academy Awards: Best Music Arrangement: Nakanishi Kyo<br />
45th Television Drama Academy Awards: Best Opening: Katayama Osamu<br />
9th Nikkan Sports Drama Grand Prix (2005-06): Best Supporting Actor: Okada Junichi<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;"><b>Cast</b></span><br />
Nagase Tomoya as Yamazaki Kotora / Hayashiyatei Kotora / Tora / Toraji / Toravolta<br />
Okada Junichi as Yanaka Ryuji / Hayashiyatei Kotatsu <br />
Ito Misaki as Megumi<br />
Nishida Toshiyuki as Yanaka Shokichi / Hayashiatei Donbei / Shisho / Don-chan<br />
Shoufukutei Tsurube as Nakatani Ken / Ken-chan (Shinjuku Ryuseikai Kumicho)<br />
Tsukamoto Takashi as Nakatani Ginjiro / Gin-gin<br />
<br />
<div style="float: right;"><script src="http://www.adyim.com/ac/?VmpGU1MyTnJPVlpPVlZaVVYwZFNVRmxYTVd0a1JtUlZVMVJXYUUxWVFsaFVNVkpEWWtaa1JsTnVUbFpTYlZKNldrVmFjMWRHY0VobFJYUnBZbFV3TVZaR1pIZFdiVkYzWTBoU1lXVnRlRTlaVjNoWFRYYzlQUT09" type="text/javascript">
</script></div><iframe allowfullscreen='allowfullscreen' webkitallowfullscreen='webkitallowfullscreen' mozallowfullscreen='mozallowfullscreen' width='280' height='250' src='https://www.blogger.com/video.g?token=AD6v5dxBMP_0aAwdqegxg4MqeiVIfJ5xWHxYnu0yr8b6bNhTVj_tkk8S5jAuL_h9CrdNOGPz66SLEW6kkrSvkzPRkw' class='b-hbp-video b-uploaded' frameborder='0'></iframe><br />
<br />
<br />
ที่มา <a href="http://www.r-u-indy.com/">www.r-u-indy.com</a> , <a href="http://wiki.d-addicts.com/Tiger_%26_Dragon">wiki.d-addicts.com</a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-66005045126138082102011-08-13T08:41:00.000-07:002011-09-07T11:21:28.110-07:00Kekkon Dekinai Otoko โสดสนิทสาวส่ายหน้า "ผมผิดเหรอ"<!--โฆษณารูปแบบ Image ขนาด 468X60 เพื่อแสดงบนเว็บ Doopladib --><script type="text/javascript" src="http://www.adyim.com/ac/?VmpGU1MyTnJPVlpPVlZaV1YwZFNVVlZyWkU5a1JtUlZVMVJXYUUxWVFsaFVNVkpEWWtaa1JsTnVUbFpTYlZKNldrVmFjMWRHY0VobFJYUnBZbFV3TVZaSGRGTlhhelZHWTBoU1lXVnRlRkJaVjNSR1QxRTlQUT09"></script><!--สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 01 ก.ย. 54 --><br />
<br />
<div style="text-align: center;"><span class="Apple-style-span" style="color: blue; font-size: large;">"แฟนเหรอ ไม่ต้องมีก็ได้"</span></div><div style="text-align: center;"><span class="Apple-style-span" style="color: blue; font-size: large;">"แต่งงานเหรอ ไม่เห็นจำเป็นเลย"</span></div><div style="text-align: center;"><span class="Apple-style-span" style="color: blue; font-size: large;">"ยังอีกนานน่ะ ไว้คิดทีหลังก็ได้ไม่เห็นจะเป็นไร"</span></div><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-CJX4pmPuJvU/TkaH4gUBFXI/AAAAAAAACDo/QBqzHFSgEEg/s1600/Kekkon_dekinai_Otoko.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://4.bp.blogspot.com/-CJX4pmPuJvU/TkaH4gUBFXI/AAAAAAAACDo/QBqzHFSgEEg/s320/Kekkon_dekinai_Otoko.jpg" width="206" /></a></div><b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Kekkon Dekinai Otoko โสดสนิท สาวส่ายหน้า The Man Who Can't Get Married </span></b><br />
<br />
คาดว่าท่านผู้ชมอีกหลายๆท่านก็คงเคยคิดแบบนี้เหมือนกัน ถ้าเช่นนั้นก็คงจะไม่แตกต่างอะไรกับพระเอกของเรา คุวาโนะ ชินสุเกะ ที่รับบทโดย <b>อาเบะ ฮิโรชิ (Abe Hiroshi)</b> นักแสดงชื่อดังจากละครเรื่อง <b>Dragon Sakura</b> พระเอกปากร้าย แต่ทว่าใจดีคนนี้สักเท่าไหร่ <br />
<br />
ในครั้งนี้ อาเบะ มารับบทเป็นสถาปนิกชายโสด(สุดแสบ) ที่ผิดหวังกับเรื่องความรักมาหลายครั้งหลายครา จนถึงขนาดที่ว่าไม่ต้องการความรักอีกต่อไป แต่ทว่าเมื่อพรหมลิขิตได้ดลให้เขามาพบกับเธอ... เมื่อคนที่เคยผิดหวัง 2 คน (2คนไหนบอกไม่ได้ อย่าเดาจะดีกว่า คงต้องตามลุ้นกันเอาเอง) ได้โคจรมาเจอกันก็น่าที่จะเข้าใจซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นน่ะเซ่!! เพราะไม่ว่าใครที่ได้มาเจอบุคลิกอันสุดประหลาด+น่าระอา ของพระเอกเราเป็นต้องส่ายหัวเผ่นแน้บไปทุกคน เพราะเขาเป็นคน...ปาก(หมา) หัวดื้อ เกลียดหมา ชอบกินjungfood ไม่ต้อนรับคนแปลกหน้า...และอีกสารพัด แต่น่ารักจนต้องยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อได้ชม ที่จะทำให้คุณต้องลุ้นกันเหนื่อยแล้วเหนื่อยอีก ไปกับความรักของอีตาบ้าคนนี้ <br />
<br />
และนอกจากอาเบะ ฮิโรชิ แล้วยังได้ <b>นัตสึคาวะ ยูอิ (Natsukawa Yui)</b> นักแสดงหญิงจากภาพยนตร์ชื่อดังจากเรื่อง Shikoku (แรงรักจากปรภพ) และดาราสาวสวยอย่าง <b>โคคุนากะ เรียวโกะ (Kuninaka Ryoko)</b> จากBrother Beat ,Say Hello to BLACK JACKมาร่วมให้ลุ้น และนักร้อง-นักแสดงรุ่นใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตาดูอยู่ในขณะนี้อย่าง <b>สึคาโมโตะ ทาคาชิ (Tsukamoto Takashi)</b> ที่เคยฝากผลงานไว้หลายต่อหลายเรื่อง อาทิเช่น Taiyo no Uta, Gokusen ฯลฯ ที่การันตีได้ถึงความเป็นมืออาชีพในด้านงานแสดงของเขาอย่างแท้จริงมาร่วมแสดงด้วย ยังไม่หมดยังมีนักแสดง มะ-หมา แสนน่ารักชื่อ: เคน พันธุ์: Pug เพศ: ผู้ อายุ: 5 ขวบ ที่จะทำให้คุณต้องร้องว่าทำไมมันน่ารัก และแสดงได้เก่งอย่างนี้...<br />
<br />
จึงนับว่าเป็นละครที่ควรติดตามชมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับคนที่ผิดหวังกับความรักมาหลายครั้งหลายครา จนตัวเองถึงกับเริ่มท้อแท้กับความรักแล้ว ลองมาชมละครเรื่องนี้ดู แล้วจะรู้ได้ว่าที่จริงแล้วความรักนั้น มันยังมีอะไรที่สวยงาม และสดชื่นไว้รอเราอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด ติดตามซีรี่ย์ญี่ปุ่นน่ารักๆให้แง่คิดในการสานสัมพันธ์กับคนรอบๆข้างตัวเราได้ใน <b>Kekkon Dekinai Otoko</b> <br />
<br />
ที่มา <a href="http://z2picture.blogspot.com/">z2picture.blogspot.com</a><br />
<br />
<div style="float: left;"><script src="http://www.adyim.com/ac/?VmpGU1MyTnJPVlpPVlZaVVYwZFNVRmxYTVd0a1JtUlZVMVJXYUUxWVFsaFVNVkpEWWtaa1JsTnVUbFpTYlZKNldrVmFjMWRHY0VobFJYUnBZbFV3TVZaR1pIZFdiVkYzWTBoU1lXVnRlRTlaVjNoWFRYYzlQUT09" type="text/javascript">
</script></div><iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="250" src="http://www.youtube.com/embed/9bc9w8fOFKw?fs=1" width="250"></iframe><br />
<br />
<div style="float:left;"><script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib 250*250 Text */
google_ad_slot = "0625022280";
google_ad_width = 250;
google_ad_height = 250;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
</div><br />
<span class="Apple-style-span" style="color: red;">@@</span> เรื่อง <b>Kekkon dekinai Otok</b> การันตีความดังด้วยเรตติ้งที่สูงมาก รวมทั้งรางวัลต่างๆที่ได้รับ ละครพูดถึงเรื่องของคนวัยทำงาน อายุ 30 ปลายๆ 40 นิดๆ ที่ยังไม่แต่งงานลงเอยกับใครซะที พ่อแม่ก็พยายามทุกอย่างที่จะให้ลูกได้แต่งงาน แต่ก็นะ...มันยังไม่เจอคนที่ใช่หน่ะซิ นักแสดงนำอย่างอาเบะ เราว่าเลือกได้เหมาะมากๆ แค่มองหน้ายังรู้สึกว่ากวนteen มากๆ บุคลิคนิสัย,การพูดจาที่ไม่ค่อยจะแคร์ใครซะท่าไหร่ บางตอนดูแล้วก็รู้สึกอีตาคนนี้นิสัยแย่จัง,มีผู้ชายอย่างนี้ด้วยเหรอ คือแสดงได้ดีจนอินไปตามตัวละคร และปัจจุบันวิถีชีวิตของคนหนุ่มสาววัยทำงาน ก็ชอบอิสระไม่ชอบยึดติด แต่งงานช้า ครองตัวเป็นโสดมากขึ้น Kekkon dekinai Otok จึงสะท้อนชีวิตของคนโสดให้เห็น แต่ละตอนจะมีชื่อตอนที่ขึ้นต้นด้วย "ผิดเหรอ" "<span class="Apple-style-span" style="color: red;">ผิดเหรอ ที่ไม่อยากญาดีกับใคร</span>" "<span class="Apple-style-span" style="color: red;">ผิดเหรอ ที่เป็นคนไม่ยืดหยุ่น</span>" "<span class="Apple-style-span" style="color: red;">ผิดเหรอ ที่ไม่ให้ใครมาเที่ยวบ้าน</span>" เป็นต้น<br />
<br />
คนเป็นโสดก็มักจะเจอคำถาม ที่บางครั้งมันก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ก็คงต้องใช้คำพูดของคุวาโนะ ชินสุเกะ "<b>ผิดเหรอ ที่ยังไม่แต่งงาน</b>" "<b>ผิดเหรอ ที่ไม่มีแฟน</b>" บอกได้คำเดียวค่ะว่า "อย่าได้แคร์" <b>โสด=สุข</b> ขอให้มีความสุขกับชีวิตโสดค่ะ <span class="Apple-style-span" style="color: red;">@@</span><br />
<br />
Title : <b>Kekkon Dekinai Otoko 結婚できない男</b><br />
Also known as: <b>The Man Who Can't Get Married / He Who Can't Marry</b><br />
Genre: Comedy<br />
Episodes: 12<br />
Broadcast network: Fuji TV<br />
Theme song: Swimi by Every Little Thing <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-tx19AT2VOxk/TkaQ9BkMzwI/AAAAAAAACD4/OuIk7zK1FFw/s1600/ken.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="191" src="http://1.bp.blogspot.com/-tx19AT2VOxk/TkaQ9BkMzwI/AAAAAAAACD4/OuIk7zK1FFw/s200/ken.jpg" width="170" /></a></div><br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Cast</span></b><br />
Abe Hiroshi as Kuwano Shinsuke<br />
Natsukawa Yui as Hayasaka Natsumi<br />
Kuninaka Ryoko as Tamura Michiru<br />
Tsukamoto Takashi as Murakami Eiji<br />
Takashima Reiko as Sawazaki Maya<br />
<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Awards</span></b><br />
50th Television Drama Academy Awards: Best Drama<br />
50th Television Drama Academy Awards: Best Director(s)<br />
50th Television Drama Academy Awards: Best Scriptwriter<br />
50th Television Drama Academy Awards: Best Actor - Abe Hiroshi<br />
50th Television Drama Academy Awards: Best Supporting Actress - Natsukawa Yui<br />
50th Television Drama Academy Awards: Special Award ~ Ken (the dog)<br />
23rd Annual ATP Awards: Award for Excellence (2006)<br />
<br />
ที่มา <a href="http://wiki.d-addicts.com/Kekkon_dekinai_Otoko">wiki.d-addicts.com</a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-32111228779760730052011-08-11T17:11:00.000-07:002011-09-05T14:00:42.912-07:00A heartful of love / Kono mune ippai no ai wo<!--โฆษณารูปแบบ Image ขนาด 468X60 เพื่อแสดงบนเว็บ Doopladib --><script type="text/javascript" src="http://www.adyim.com/ac/?VmpGU1MyTnJPVlpPVlZaV1YwZFNVVlZyWkU5a1JtUlZVMVJXYUUxWVFsaFVNVkpEWWtaa1JsTnVUbFpTYlZKNldrVmFjMWRHY0VobFJYUnBZbFV3TVZaSGRGTlhhelZHWTBoU1lXVnRlRkJaVjNSR1QxRTlQUT09"></script><!--สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 01 ก.ย. 54 --><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-l8GohsGvIT4/TjLUYfNCv7I/AAAAAAAABPk/C20pZh9pPRk/s1600/A%2BHeartful%2Bof%2BLove.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://4.bp.blogspot.com/-l8GohsGvIT4/TjLUYfNCv7I/AAAAAAAABPk/C20pZh9pPRk/s320/A%2BHeartful%2Bof%2BLove.jpg" width="201" /></a></div><br />
<script type="text/javascript">
<!--
ad_partner="20110713587238782";
ad_website="2011071954748308";
ad_zone="20110720200913409";
ad_format="200804224563300250";
ad_type="t";
ad_color_border="FFFFFF";
ad_color_bg="FFFFFF";
ad_background="";
ad_color_title="0000CC";
ad_color_text="32629E";
ad_color_url="CC3399";
//-->
</script><br />
<script src="http://ads.bumq.com/ad_show2.js" type="text/javascript">
</script><br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">เรื่องย่อ A heartful of love (Kono mune ippai no ai wo)</span></b><br />
<br />
ซุซุทานิ ฮิโรชิ (<b>ฮิเดอากิ อิโต้</b>) นักธุรกิจหนุ่มวัย 30 เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดสมัยเด็ก และแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อได้พบกับเด็กชายวัย 10 ขวบที่วิ่งมายืนตรงหน้า ซึ่งปรากฏว่าเป็นตัวเขาเมื่อตอนเด็กนั่นเอง เขาจึงใช้โอกาสนี้กลับไปแก้ไขอดีตในเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ทำให้คุณยายของเขาต้องเสียชีวิต รวมถึงการช่วยชีวิตรักแรกในวัยเด็กของเขาจากโรคร้ายได้รึไม่ และความรักในหัวใจของเขาจะมีพลังเพียงพอหรือเปล่า<br />
<br />
ผู้กำกับ : Akihiko Shiota<br />
นักแสดง : Hideaki Ito, Mimura, Chieko Baisho, Ryo Katsuji, Yuko Kotegawa, Kankuro Kudo, Ei Morisako, Kanzaburo Nakamura, Asami Usuda, Kazuko Yoshiyuki<br />
ประเภท : Romance<br />
<script type="text/javascript">
<!--
ad_partner="20110713587238782";
ad_website="2011071954748308";
ad_zone="20110720200913409";
ad_format="20080422569846860";
ad_type="tm";
ad_color_border="FFFFFF";
ad_color_bg="FFFFFF";
ad_background="";
ad_color_title="0000CC";
ad_color_text="32629E";
ad_color_url="CC3399";
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript" src="http://ads.bumq.com/ad_show2.js"></script><br />
<br />
ที่มา <a href="http://www.blogger.com/www.siamzone.com">www.siamzone.com</a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-65167835369433494782011-08-11T17:01:00.000-07:002011-09-05T14:01:06.571-07:00Firefly Dreams Japan Movie<!--โฆษณารูปแบบ Image ขนาด 468X60 เพื่อแสดงบนเว็บ Doopladib --><script type="text/javascript" src="http://www.adyim.com/ac/?VmpGU1MyTnJPVlpPVlZaV1YwZFNVVlZyWkU5a1JtUlZVMVJXYUUxWVFsaFVNVkpEWWtaa1JsTnVUbFpTYlZKNldrVmFjMWRHY0VobFJYUnBZbFV3TVZaSGRGTlhhelZHWTBoU1lXVnRlRkJaVjNSR1QxRTlQUT09"></script><!--สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 01 ก.ย. 54 --><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-cPS-k_e1mnc/TjLPwDR8YfI/AAAAAAAABPE/tS4RJoLDuNM/s1600/firefly%2Bdreams.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://1.bp.blogspot.com/-cPS-k_e1mnc/TjLPwDR8YfI/AAAAAAAABPE/tS4RJoLDuNM/s320/firefly%2Bdreams.jpg" width="208" /></a></div><script type="text/javascript">
<!--
ad_partner="20110713587238782";
ad_website="2011071954748308";
ad_zone="20110720200913409";
ad_format="200804224875250250";
ad_type="t";
ad_color_border="FFFFFF";
ad_color_bg="FFFFFF";
ad_background="";
ad_color_title="0000CC";
ad_color_text="4BACC6";
ad_color_url="FF00FF";
//-->
</script><br />
<script src="http://ads.bumq.com/ad_show2.js" type="text/javascript">
</script><br />
<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Firefly Dreams</span></b> เป็นหนังญี่ปุ่นที่กำกับโดยผู้กำกับชาวตะวันตก <b>John Williams</b><br />
<br />
Directed: John Williams<br />
Year: 2001<br />
Genre: Drama<br />
<br />
เล่าเรื่องในช่วงฤดูร้อนของ นาโอมิ เด็กสาววัย 17 ปีผมทอง ผิวแทน ใช้ชีวิตในนาโกย่า เธอชอบเที่ยว ชอบเล่น ชอบแต่งหน้าแต่งตัวเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วๆไป ที่สำคัญเธอเกลียดการไปโรงเรียนสุดๆ นี่ทำให้เธอมีปัญหากับพ่แม่ จนถึงขนาดที่ว่าแม่บื่อการต่อปากต่อคำ เบื่อครอบครัว จนหนีออกจากบ้านไปกับผู้ชายคนใหม่ <br />
<br />
เมื่อปัญหามันลุกลามมากขนาดนี้ พ่อจึงส่งเธอไปทำงานกับญาติซึ่งมีโรงแรมในชนบท ที่นี่เธอได้เรียนรู้การทำงานหนัก คือช่วยทุกอย่างที่จะช่วยได้<br />
<br />
โรงแรมแห่งนี้อยู่ในชนบทมากๆ เธอจึงไม่มีที่ไปเที่ยวเล่นเหมือนสมัยอยู่ในเมือง มีแต่ธรรมชาติ ภูเขา แม่น้ำเท่านั้น นอกจากนี้ก็มีแต่ “ยูมิ” ซึ่งเป็นลูกสาวของญาติเธอเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่อายุเท่าๆกัน แต่ตอนแรกที่ นาโอมิก็ไม่ค่อยจะชอบยูมิซะเท่าไหร่ เพราะยูมิต๊องๆ เด็กๆซื่อๆจนดูน่าเบื่อ<br />
<br />
หลังจากนั้น ป้าของนาโอมิก็ส่งเธอไปช่วยดูแลญาติที่ชื่อ โคอิเดะ ซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์และใช้ชีวิตบั้นปลายคนเดียวในบ้านหลังใหญ่ ชีวิตประจำวันของคุณโคอิเดะก็ไม่มีอะไรนอกจากการหาข้าวกิน ทำสวน ดูแลไก่ อ่านหนังสือพิมพ์<br />
<br />
การที่นาโอมิได้ไปใกล้ชิดกับคุณโดอิเดะมากขึ้น ทำให้เธอเรียนรู้ความอ่อนโยนและความแตกต่างของวัย นอกจากนี้การได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวความลับ ความฝันในวัยสาวของกันและกัน ทำให้บางอย่างในจิตใจของนาโอมิเปลี่ยนแปลงไป เธอได้เรียนรู้การใช้ชีวิตที่สังเมืองไม่อาจสอนเธอได้<br />
<br />
เรื่องราวประมาณนี้ก็สะท้อนปัญหาในสังคมญี่ปุ่น ช่องว่างระหว่างวัย หรือความเปลี่ยนแปลงไปของเมืองในชนบท<br />
<script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* singsong468*60Media */
google_ad_slot = "4161479985";
google_ad_width = 468;
google_ad_height = 60;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-10715788642639967602011-08-11T14:43:00.000-07:002011-09-07T11:51:09.988-07:00Unubore Deka อุนุโบเระ เดกะ Conceited Detective<span style="color: blue; font-size: large;">"ถ้าไม่ออกจากบ้านก็ไม่เจอรถติด ถ้าไม่ออกไปเดทบ้างก็จะไม่มีพลังขึ้นสู้"</span><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-NgItqmMPRwQ/TkREtia6B-I/AAAAAAAACC4/jWtp24I2aO0/s1600/Unubore2.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://3.bp.blogspot.com/-NgItqmMPRwQ/TkREtia6B-I/AAAAAAAACC4/jWtp24I2aO0/s320/Unubore2.jpg" width="224" /></a></div><br />
<b>Unubore Deka / Conceited Detective </b><br />
<br />
นักสืบหนุ่มโสดวัย 30 ปี อุนุโบเระ เดกะ (<b>โทโมยะ นางาเสะ</b>) ผู้ซึ่งตกหลุมรักสาวผู้ต้องสงสัยทุกรายที่พบเห็น เขาสังกัดแผนกคดีอาญชากรรม ทำให้เขาต้องพบเจอผู้ต้องสงสัยอยู่บ่อยครั้ง และมักจะตกหลุมรักง่ายๆ จนเป็นเหตุให้ต้องอกหักอยู่บ่อยๆ เขามีนิสัยชอบคิดไปเองว่าเธอเหล่านั้นก็ตกหลุมรักเขาเหมือนกัน และเมื่อเขาหาหลักฐานคลี่คลายคดีได้ ก็จะให้พวกเธอเลือกว่าจะโดนหมายจับหรือว่าแต่งงานกับเขา ต่อมานักสืบ อุนุโบเระ เดกะ ก็ต้องอกหัก จากแฟนเก่าที่ชื่อ เรอิ ฮิกุราชิ (<b>มิกะ นากาชิมะ</b>) อีกด้วย<br />
<br />
สามปีก่อน เรอิ มีส่วนพัวพันในคดีหนึ่งจนได้พบกับ อุนุโบเระ เดกะ และคบกันเป็นแฟน จนกระทั่ง 2 ปีผ่านไป ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ไม่คืบหน้าเนื่องมาจากความรู้สึกที่ เรอิ มีต่อ อุนุโบเระ นั้น เป็นความอิจฉา ดังนั้นก่อนการแต่งงาน เธอจึงได้บอกเลิกเขา และไปคบกับ มาซารุ ซาเอกิ (โยชิโยชิ อาราคาว่า) โดยเธอนั้นเจอเขาผ่านทางเว็บไซต์หาคู่และแต่งงาน มาซารุ ซาเอกิ เป็นนักสืบอาชญากรรม และยังเป็นคู่หู เดกะ อีกด้วย<br />
<br />
และแล้ววันหนึ่งฆาตกรรมเกิดขึ้นที่ บริษัท ซอฟต์แวร์เกม ผู้ต้องสงสัยก็คือแฟนเก่าของนักสืบ อุนุโบเระ และเขาเคยตกหลุมรักเธอ เขาจะสามารถจับเธอได้หรือไม่ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องติดตามชมค่ะ<br />
<div style="float:left;"><script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib 300*250 Text */
google_ad_slot = "7058232574";
google_ad_width = 300;
google_ad_height = 250;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script></div><br />
<iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="240" src="http://www.youtube.com/embed/QUoVEdfLOz0?fs=1" width="230"></iframe><br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: red;">@@ </span> <span class="Apple-style-span" style="color: blue;"><b>Unubore Deka</b> <b>ที่สุดของความฮา</b></span> สนุกๆมากค่ะเรื่องนี้ ขึ้นชื่อว่า <b>Tomoya Nagase</b> แสดงนำ ไม่ต้องห่วงสนุกแน่นอน รวมทั้งแก๊งค์ Unubore 5 อีกด้วย แต่ละคนก็เป็นหนุ่มโสดที่พอเสร็จจากงานก็มารวมตัวกันที่ Bar 'I am I' members คุย<b>เพ้อเจ้อ</b>เรื่องผู้หญิงไปเรื่อยก็ตามประสาคนโสดไม่มีแฟน <b>Toma</b> เล่นเรื่องนี้แล้วน่าตากวน...มากๆ เราดูแล้วแตละคนเล่นเข้าขากันดีมากๆ ดูสบายๆฮาๆไม่ต้องคิดมากค่ะเรื่องนี้ สนุกได้หัวเราะแน่นอน <br />
<br />
ที่สำคัญคือคนทำซับบรรยายไทย แปลได้ดีคือแปลจากภาษาญี่ปุ่นมาเป็นภาษาไทย แล้วก็ต้องแปลไทยเป็นไทยอีกทีด้วยคือต้องเลือกใช้คำที่เข้าใจง่ายและเข้ากับเนื้อเรื่อง เราว่ามันไม่ง่ายเลยนะแปลจากภาษาพูดมาเป็นภาษาเขียนอีกที คนทำซับหรือเรียกอีกอย่างว่าคนโม เรื่องอุนุโบเระ เดกะ คือ Hav2u รู้สึกว่าจะทำไปไม่กี่เรื่องเอง ตอนนี้เขาไม่ได้ทำแล้วน่าเสียดายมากๆ คนที่ควรอุดหนุนคนโมซีรี่ย์มากที่สุดคือร้านค้าต่างๆที่ขาย เฉพาะแค่ขายในอินเตอร์เน็ตก็เยอะมากๆ ลงทุนซื้อต้นฉบับสักหน่อยก็ก็อปขายได้ตลอดไม่เน่าไม่เสีย เพราะถ้าคนโมทำแล้วไม่คุ้มเขาก็อยู่ไม่ได้ เราก็อดดูหนังอดดูซีรี่ย์ ดูซีรี่ย์เรื่องไหนแล้วชอบก็ไปซื้อกับคนโมมาเก็บไว้อีกนะค่ะ หรือถ้าดูหนังเรื่องไหนถูกใจและมีแผ่นแท้ขายก็อุดหนุนแผ่นแท้ด้วย คนทำจะได้มีกำลังใจค่ะ<span class="Apple-style-span" style="color: red;"> @@</span><br />
<br />
** <b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">อุนุโบเระ (Unubore)</span></b> - พวกที่ประเมินค่าตัวเองสูง ช่างเพ้อฝัน **<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Tagline (English): </span>I sentence you to marry me.<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Episodes:</span> 11<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Theme song: </span>NaNaNa (Taiyo nante Iranei) - TOKIO<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Insert song: </span>Ichiban Kirei na Watashi wo - Nakashima Mika<br />
<script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* singsong468*60Media */
google_ad_slot = "4161479985";
google_ad_width = 468;
google_ad_height = 60;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script><br />
<iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="350" src="http://www.youtube.com/embed/itmx6Azq5fY?fs=1" width="460"></iframe><br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Unubore 5 and Bar 'I am I' members</span></b><br />
Nagase Tomoya as Unubore<br />
Ikuta Toma as Honjo Sadame<br />
Kaname Jun as Matsuoka Seishiro<br />
Yahagi Ken (矢作兼) as Anai Kiichi<br />
Bando Mitsugoro as Kurihashi Makoto<br />
Shoji Yusuke (少路勇介) as Goro the bartender<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Awards</span></b><br />
66th Television Drama Academy Awards: Best Screenwriter - Kudo Kankuro<br />
66th Television Drama Academy Awards: Best Directors - Kudo Kankuro, Yoshida Ken, Doi Nobuhiro, Kaneko Fuminori<br />
<br />
ที่มา <a href="http://www.thesisterme.com/">http://www.thesisterme.com</a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-59057912522295058682011-08-06T09:28:00.000-07:002011-09-07T11:53:16.322-07:00Hakase no Aishita Sushiki ดอกเตอร์กับรูทและสูตรรักของเขา The Professor and His Beloved Equation<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">“ ตัวเลขเป็นสิ่งที่ไม่ตายเหมือนอย่างที่เราเห็น มันมีการเคลื่อนที่ มันมีสีสันในตัวของมันเอง เหมือนกับมนุษย์ที่แต่ละคนจะไม่มีอะไรเหมือนกันเลย แต่ละคนจะมีความโดดเด่นในตัวเอง ”</span><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-dbNaha5_Rik/Tj1gXxVHKFI/AAAAAAAAB-M/gjduC-XrkKE/s1600/d.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://2.bp.blogspot.com/-dbNaha5_Rik/Tj1gXxVHKFI/AAAAAAAAB-M/gjduC-XrkKE/s320/d.jpg" width="217" /></a></div>ผู้กำกับภาพยนตร์รางวัลอาคาเดมี่ญี่ปุ่น <b>โคอิซุมิ ทาคาชิ</b> พร้อมด้วยนักแสดงนำ เทราโอะ อาคิระ ในนวนิยายขายดีรางวัลยอดเยี่ยมรางวัล Honya ครั้งที่ 1 กับภาพยนตร์ที่ทุกคนเฝ้ารอคอย เรื่องราวของความรักอันกว้างไกลลึกซึ้ง ซึ่งจะตราตรึงอยู่ในหัวใจคุณไปตราบนานแสนนาน<br />
<br />
“ดอกเตอร์จะอยู่เคียงข้างกับตัวเลขอยู่เสมอ หยุดยืนนิ่งอยู่ที่ตรงนั้นประหนึ่งว่าได้อยู่แนบชิดเคียงใกล้กับสิ่งที่เป็นเสมือนของรักของหวง ในระหว่างที่ดอกเตอร์กำลังพลอดรักอยู่กับตัวเลขนั้น หากมีใครเข้ามาขัดจังหวะเสียแล้วละก็ จะไม่ยอมยกโทษให้เป็นอันขาด”<br />
<br />
การพูดคุยกันระหว่างดอกเตอร์กับตัวเลขนั้นช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่หาค่ามิได้ ในนิยายเรื่อง “ดอกเตอร์กับรูทและสูตรรักของเขา” นี้เป็นเรื่องราวของดอกเตอร์ผู้ซึ่งมีจิตใจที่ใสสะอาด และสวยงามเฉกเช่นเดียวกับสูตรทางคณิตศาสตร์ที่เขียนขึ้นจากนิ้วมือของดอกเตอร์<br />
<br />
นิยายเรื่อง “<b>ดอกเตอร์กับรูทและสูตรรักของเขา</b>” เป็นหนังสือขายดีติดอันดับซึ่งแต่งโดย <b>โอกาวะ โยโกะ</b> นักเขียนรางวัล Akutagawa และยังได้รับเลือกให้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมรางวัล Honya ครั้งที่ 1, รางวัลวรรณกรรม Yomiuri ครั้งที่ 55 ผนวกกับผู้กำกับภาพยนตร์ฝีมือดีที่เคยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอาคาเดมี่แห่งประเทศญี่ปุ่นมาแล้วจาก เรื่อง Ame agaru เมื่อปี 2001 ร่วมด้วยสุดยอดดารานักแสดงอย่าง เทราโอะ อาคิระ นักแสดงรางวัลอาคาเดมี่แห่งประเทศญี่ปุ่น, ฟุคาสึ เอริ, ไซโต้ ทาคาชิเกะ, โยชิโอกะ ฮิเดทากะ และอาซาโอกะ รูริโกะ <br />
<br />
สูตรทางคณิตศาสตร์ที่ดูเหมือนจะยากแต่กลับท่วมท้นไปด้วยความรักที่อบอุ่นและสวยงาม และเป็น “ความงดงาม” “ความบริสุทธิ์” ที่คนญี่ปุ่นมีอยู่โดยธรรมชาติ เมื่อเรามีความสุขอยู่กับ “ขณะนี้” การมีอยู่ของคนสำคัญก็จะดำรงอยู่ในหัวใจของเราตลอดไป<br />
<br />
วันคืนที่เต็มล้นไปด้วยความสุข และความประหลาดใจของเด็กชายอายุสิบขวบกับแม่บ้านและ<b>ดอกเตอร์อัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์</b> ผู้ซึ่ง<b>มีความทรงจำเพียงแค่ 80 นาที</b>ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว<br />
<br />
จากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดทำให้ดอกเตอร์อัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์ต้องหลงเหลือความทรงจำอยู่เพียงแค่ 80 นาที เมื่อใดที่เกิดเรื่องสับสนวุ่นวายขึ้น เขาจะไม่ใช้คำพูดแต่กลับใช้ตัวเลขเข้ามาแทน นั่นคือวิธีที่เขาคิดขึ้นเพื่อใช้สื่อสารกับผู้อื่น อันโกะแม่บ้านที่มาทำงานอยู่ที่บ้านของดอกเตอร์กับลูกชายวัยสิบขวบซึ่งอยู่ด้วยกันลำพังเพียงสองคน ดอกเตอร์ตั้งชื่อให้เด็กคนนี้ว่า <b>“รูท”</b> ดอกเตอร์ได้สอนความงดงามของสูตรทางคณิตศาสตร์ และสอนให้รู้จักกับโลกที่ทอแสงประกายสวยงามให้ ทำให้แม่ลูกทั้งสองคนได้รับแรงบันดาลใจจากดอกเตอร์ที่รักในตัวเลข และได้เข้าใจถึงความหมายที่งดงามของคำพูดซึ่งซ่อนเร้นอยู่ภายใน<b>สูตรคณิตศาสตร์</b><br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Story - Hakase no Aishita Sushiki 博士の愛した数式 </span></b><br />
<br />
<div style="float:left;"><script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib 250*250 Text */
google_ad_slot = "0625022280";
google_ad_width = 250;
google_ad_height = 250;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
</div>อยู่มาวันหนึ่งแม่บ้านลูกติดได้รับการแนะนำให้มาทำงานที่บ้านของลูกค้าซึ่งได้เคยเปลี่ยนตัวแม่บ้านมาแล้วถึงเก้าคน เมื่อไปรับการสัมภาษณ์ที่บ้านของลูกค้า ผู้ที่ออกมาต้อนรับนั้นก็คือหญิงชราแม่ม่ายซึ่งแต่งกายดี แม่ม่ายซึ่งอาศัยอยู่ที่เรือนใหญ่ได้ชี้แจงให้ฟังว่า เธอจะต้องคอยดูแลน้องบุญธรรมซึ่งอาศัยแยกกัน อีกทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องไม่นำมายังเรือนใหญ่โดยเด็ดขาด และน้องบุญธรรมประสบกับอุบัติเหตุจึงทำให้มีความทรงจำเพียงแค่ 80นาทีเท่านั้น<br />
<br />
ดอกเตอร์ได้รับการส่งเสียจากพี่ชายให้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษจนจบการศึกษาในระดับดุษฎีบัณฑิต จากนั้นก็ได้กลับมาทำงานที่สถาบันวิจัยคณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัย แต่ทว่าพอพี่ชายได้เสียชีวิตลง ภรรยาของพี่ชายจึงได้กลายเป็นแม่ม่าย เนื่องจากขาดประสบการณ์ในการบริหารจัดการจึงได้ปิดกิจการโรงงานทอผ้าลง และได้เปลี่ยนไปสร้างอพาร์ตเมนต์หรูขึ้นบนพื้นที่โรงงานเก่า ดำรงชีวิตด้วยรายได้จากค่าเช่าแทน แต่ทว่าวิถีชีวิตอันราบรื่นของทั้งสองก็ต้องมาพลิกผันไปโดยสิ้นเชิง เมื่อดอกเตอร์ประสบอุบัติเหตุจนทำให้ต้องสูญเสียทั้งงานที่มหาวิทยาลัยและความทรงจำของตัวเองไป ภรรยาม่ายของพี่ชายจึงต้องมารับเลี้ยงดูดอกเตอร์ในเวลาต่อมา<br />
<br />
ในวันที่เริ่มทำงานวันแรก หลังจากที่ได้แนะนำตัวเอง “สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นแม่บ้านคนใหม่ค่ะ” คำถามแรกที่ดอกเตอร์คนที่มาปรากฎตัวที่หน้าประตูบ้านถามฉันนั้นไม่ใช่ชื่อของฉัน แต่กลับเป็นขนาดของรองเท้า<br />
“เธอสวมรองเท้าเบอร์อะไรหรือ”<br />
“เบอร์ 24 ค่ะ”<br />
“โอ เป็นตัวเลขที่ลงตัวสวยงามที่เดียว มันคือแฟกทอเรียลของ 4”<br />
เสื้อนอกของดอกเตอร์ที่สวมใส่อยู่นั้นถูกเหน็บไปด้วยคลิปซึ่งหนีบกระดาษที่จดข้อความบางอย่างอยู่เต็มไปหมด กระดาษเหล่านี้มีไว้เพื่อจดบันทึกเรื่องราวสำคัญซึ่งจะลืมเสียมิได้เป็นการทดแทนความจำที่มีอยู่เพียง 80 นาที แล้วเอากระดาษช่วยจำเหล่านั้นเหน็บติดกับตัวเพื่อไม่ให้ลืมว่าเก็บไว้ที่ไหน<br />
<br />
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทุกเช้าทั้งสองคนจะมีการสนทนากันเกี่ยวกับตัวเลขที่ตรงหน้าประตูบ้านทุกครั้งไป สำหรับดอกเตอร์ที่ความทรงจำจะถูกลบเลือนไปทุก 80นาทีนี้การได้พบแม่บ้านจึงเป็นเหมือนการพบกันครั้งแรกทุกครั้ง เมื่อใดที่ดอกเตอร์เกิดความรู้สึกกระวนกระวายสับสน เขาก็จะใช้ตัวเลขแทนที่จะเป็นคำพูด นั่นคือวิธีที่ดอกเตอร์คิดขึ้นเพื่อใช้แลกเปลี่ยนสื่อสารกับคนอื่น สูตรทางคณิตศาสตร์ที่ออกมาจากปากของดอกเตอร์นั้น อาจจะมองดูเหมือนเป็นตัวเลขที่ยากแสนยาก แต่มันกลับไม่ใช่อย่างนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขใดมันช่างให้ความรู้สึกอบอุ่นสวยงาม ทำให้รู้สึกตื่นเต้น เหมือนกับเป็นการได้ค้นพบบางสิ่งที่เจิดจ้า<br />
<br />
และแล้ววันหนึ่งดอกเตอร์ก็ได้ทราบว่าแม่บ้านนั้นมีลูกชายอายุสิบขวบอยู่หนึ่งคนจากการพูดคุยสนทนากันโดยบังเอิญ เมื่อเป็นเช่นนั้นดอกเตอร์ถึงกับทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้เด็กน้อยต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง และบังคับให้แม่บ้านให้สัญญาว่าจะต้องให้ลูกชายกลับมาที่นี่ทันทีหลังโรงเรียนเลิก พร้อมกับจดบันทึกเอาไว้ในกระดาษที่ติดอยู่ที่เสื้อว่า “แม่บ้านคนใหม่ กับลูกชายอายุสิบขวบ”<br />
<br />
ดอกเตอร์เรียกลูกชายของแม่บ้านว่า “รูท” “รูทคือสัญลักษณ์แสนใจกว้างที่ไม่เคยรังเกียจตัวเลขตัวไหนๆ ยอมโอบอุ้มเอาไว้ภายในตัวเองทั้งหมดเชียวนะ” เมื่อดอกเตอร์ไม่ได้อยู่กับรูทมันเหมือนกับเสียงหัวเราะก็ได้ถูกขโมยไปด้วย<br />
<br />
พอรูทได้รู้ว่าดอกเตอร์เคยเล่นเบสบอลสมัยเรียนม.ปลาย ก็ได้ขอร้องให้ดอกเตอร์มาดูการแข่งขันของทีมเบสบอลของตน หลายวันต่อมาดอกเตอร์ก็ได้ไปเชียร์เบสบอลกับแม่บ้าน แต่ไม่รู้เป็นเพราะความร้อนของแสงแดดหรืออย่างไร พอกลับมาบ้านดอกเตอร์ก็ถึงกับเป็นไข้นอนซม ไข้ไม่ยอมลดลง บวกกับความเป็นห่วงที่ดอกเตอร์นอนไม่ยอมตื่น แม่บ้านจึงฝ่าฝืนกฎของสำนักงานแม่บ้านอยู่ค้างคืนเพื่อเฝ้าไข้จนถึงเช้า เมื่อเห็นดอกเตอร์ตื่นขึ้นมา แม่บ้านจึงได้ส่งเสียงทักเหมือนเช่นทุกครั้ง สิ่งที่หลุดออกมาจากปากของดอกเตอร์ผู้ซึ่งกังวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาคือความเป็นจริงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง “<b>ความทรงจำของผมอยู่ได้เพียง 80 นาทีเท่านั้น</b>” แม่บ้านจึงได้ประจักษ์เป็นครั้งแรกถึงความเจ็บปวดของความหมายในคำพูดนั้น<br />
<br />
หลายวันต่อมา แม่บ้านได้ถูกสำนักงานแม่บ้านเรียกตัวไปพบและถูกปลดออกจากหน้าที่ ซึ่งสาเหตุก็เนื่องมาจากภรรยาม่ายได้มาร้องเรียนเรื่องที่แม่บ้านไปอยู่พักค้างคืนนั่นเอง ตัวแม่บ้านเองที่รักษาสัญญาว่าจะไม่นำปัญหาไปยุ่งเกี่ยวกับเรือนใหญ่แล้ว จึงพยายามขอร้องไม่ให้ตนถูกปลดออกจากหน้าที่ แต่ทว่าคำขอนั้นก็ไม่เป็นผล<br />
<br />
แม่บ้านซึ่งได้ไปเริ่มงานยังสถานที่ใหม่ เมื่อมองเห็นพวกตัวเลขที่มีอยู่มากมายในชีวิตประจำวันอย่างเบอร์โทรศัพท์เอยหมายเลขเครื่องบนตู้เย็นเอย ทำให้คิดถึงวันคืนที่สนุกสนานและมีค่าที่ได้อยู่ร่วมกับดอกเตอร์ และทุกครั้งที่นึกถึงคำพูดของดอกเตอร์ขึ้นมาทีไรก็ทำให้อยากจะพบกับดอกเตอร์ไปเสียทุกที<br />
<br />
และแล้วก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา นั่นคือโทรศัพท์จากภรรยาม่ายคนนั้น...<br />
<br />
<div style="float:right;"><!--โฆษณารูปแบบ Image ขนาด 250X250 เพื่อแสดงบนเว็บ Doopladib --><script type="text/javascript" src="http://www.adyim.com/ac/?VmpGU1MyTnJPVlpPVlZaVVYwZFNVRmxYTVd0a1JtUlZVMVJXYUUxWVFsaFVNVkpEWWtaa1JsTnVUbFpTYlZKNldrVmFjMWRHY0VobFJYUnBZbFV3TVZaR1pIZFdiVkYzWTBoU1lXVnRlRTlaVjNoWFRYYzlQUT09"></script><!--สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 02 ก.ย. 54 --></div><iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="250" src="http://www.youtube.com/embed/uG0U0iT9y1A?fs=1" width="280"></iframe> <br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: red;">@@</span> ดูแล้วทำให้รู้สึกว่าคณิตศาสตร์น่าสนใจขึ้นมาทันที แนะนำให้ดูเป็นหนังที่ดีมากๆ แต่ก็น่าเสียดายที่แผ่นแท้หาซื้อได้ยากมากๆ ละครญี่ปุ่นและหนังญี่ปุ่นมีเข้ามาขายในบ้านเรน้อยมากๆ เกาหลีบุกอย่างแรง เสียดายที่คนไทยไม่ได้ดูหนังดูละครดีๆ ข้อมูลที่นำมาจากบล๊อคของคุณ z2picture แฟนซีรี่ย์ญี่ปุ่นคงจะค้นเคยกันอยู่แล้ว เป็นคนแปลหนังและละครของญี่ปุ่นหลายเรื่องมากๆ แปลได้ดีเลยล่ะ ถ้าจะดูหนังดูซีรี่ย์ของญี่ปุ่นแนะนำให้ดูเรื่องที่ทำซับโดย z2picture ไม่ผิดหวังแน่นอน <span class="Apple-style-span" style="color: red;">@@</span><br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">นักแสดงนำ</span></b><br />
1.Terao Akira แสดงเป็น ดอกเตอร์<br />
2.Fukatsu Eri แสดงเป็น อันโกะ<br />
3.Saito Takashige แสดงเป็น รูท<br />
4.Yoshioka Hidetaka แสดงเป็น ครู (รูท)<br />
5.Asaoka Ruriko แสดงเป็น ภรรยาม่าย<br />
<br />
ที่มา <a href="http://z2picture.blogspot.com/2007/05/hakase-no-aishita-sushiki.html">http://z2picture.blogspot.com</a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-847341622277019282011-08-05T07:07:00.000-07:002011-09-03T08:02:54.280-07:00Closed Note クローズド・ノート<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-7ZedrWtsDNY/TjLRSXxjylI/AAAAAAAABPU/eCsJYI5P4iM/s1600/Closed%2BNote.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://1.bp.blogspot.com/-7ZedrWtsDNY/TjLRSXxjylI/AAAAAAAABPU/eCsJYI5P4iM/s320/Closed%2BNote.jpg" width="201" /></a></div>การกลับมาสร้างชื่อในฐานะผู้กำกับหนังรักอย่าง<b> Isao Yukisada</b> ครั้งนี้ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง และเป็นปรากฏการณ์ ที่สามารถนำนักแสดงสาวสองวัยที่ต่างก็เป็นซูเปอร์สตาร์หญิงอย่าง <b>เอริกะ ซาวาจิริ</b> และ<b> ยูโกะ ทาเคอุจิ</b> มาแสดงร่วมกัน ได้อย่างลงตัว<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">เรื่องย่อ Closed Note クローズド・ノート </span></b> <br />
<br />
เรื่องราวของสาวนักศึกษาที่เพิ่งย้ายเข้ามายังอพาร์ทเม้นท์แห่งใหม่ เธอพบสมุดบันทึกเล่มหนึ่งโดยบังเอิญ ซึ่งเขียนโดยคุณครูสาวใจดี ที่เป็นคนเช่าคนเก่า เธอได้เปิดอ่าน และใช้ข้อความที่บันทึกในสมุดเล่มนี้แก้ปัญหาชีวิตต่างๆ ตั้งแต่เรื่องเรียน จนถึงเรื่องความรัก กระทั่งวันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องออกตามหาเจ้าของตัวจริงของมัน ..<br />
<br />
**************************************<br />
<br />
ประเด็นที่น่าสนใจและมีแรงดึงดูดเอามากๆสำหรับผู้เขียนคือ ชายนิรนามคนหนึ่งที่ดอดมาด้อมๆมองๆหญิงสาวที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ในวันแรก เขาคือใคร? มาจากไหน? เป็นพวกถ้ำมองหรือชายโรคจิตรึเปล่า? ...อย่างค่อยเป็นค่อยไป<br />
<br />
ในเวลาต่อมาเราจึงได้รู้จักรายละเอียดของชายคนนี้ เมื่อเขาเดินเข้ามาในร้านขายปากกาหมึกซึมที่หญิงสาวทำงานพาร์ทไทม์อยู่ (หลังจากเทียวไปเทียวมาอยู่หลายรอบ) เบื้องต้นเราจึงได้รู้ว่าเขาเป็นนักเขียนภาพประกอบหนังสือ <br />
<br />
จะว่าไปหน้าตาเขาก็ดูเท่ไม่หยอก ผมเผ้ายาวสยายหยิกเป็นเกลียวคลื่น (เพื่อนสาวของผู้เขียนยังถึงกับบอกว่าหน้าละม้ายคล้าย ปู แบล็คเฮด) อีกทั้งยังมีบุคลิกชวนน่าฉงนอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเขาไม่ค่อยชอบสบตากับใครมากนัก เวลาพูดมักก้มหน้าก้มตาใช้ประโยชน์จากเส้นผมบดบังแววตา...หรือว่านี่จะเป็นเสน่ห์ต้องมนต์สะกดให้สาวเจ้าเกิดอาการหัวใจเต้นแรงและแอบอมยิ้มทุกครั้งเวลาชายหนุ่มคนนี้เดินเข้าร้าน...<br />
<br />
แต่...การได้รู้จักหรือหลงปลื้มใครซักคนแบบผิวเผิน คงเป็นอะไรที่ดีไม่น้อย หากการรู้จักตัวตนของคนๆนั้นมากเกินไป จะทำให้ต้องเสียน้ำตา..ซึ่งนั่นนำมาสู่ประเด็นที่ผู้เขียนเกริ่นไว้ว่า 'น่าสนใจ' และเกิดเป็น 2-3 ประเด็นใหญ่ๆที่หนัง 'เล่นด้วยภาพ' ได้โดนใจและตื้นตันเอามากเป็นพิเศษ<br />
<br />
การที่หนังจงใจเล่าเหตุการณ์ต่างๆผ่านบุคคลที่ 3 ซึ่งน่าจะไม่มีตัวตนอยู่แล้วเพราะเธอมีเหลือทิ้งไว้ให้ดูแต่สมุดบันทึกและภาพถ่ายสมัยที่เป็นครูสอนเด็กประถม...ทว่าทุกครั้งที่หญิงสาวผู้มาอยู่ใหม่อ่านบันทึกเล่มนี้ ภาพและเหตุการณ์อันน่าประทับใจหรือเรื่องราวอันน่าเศร้าในแต่ละวันของหญิงสาวคนก่อนจะดำเนินออกมาให้เราเห็น<br />
<br />
ประเด็นต่อมาคือ การที่มีหญิงสาวถึง 2 คนยอมเจ็บปวดเพราะหลงรักชายที่มีหัวใจดั่งหินผา ไม่น่าเชื่อว่าชายนักวาดภาพประกอบคนนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อหัวใจให้หญิงสาวทั้งสองหลงเสน่ห์ชนิดยอมยกหัวใจให้ครอบครอง แต่หัวใจดังหินผาของชายหนุ่ม ไม่มีหญิงสาวคนใดสามารถคว้าหรือกะเทาะให้หินลูกนี้พังทลายลงได้ ไม่ใช่เขาไม่คิดจะรักใคร แต่หัวใจอันอบอุ่นและเปราะบางของเขาเคยแตกสลายมาแล้ว มันจึงไม่มีวันย้อนคืนกลับมามีชีวิตชีวาพองโตได้อีก<br />
<br />
ส่วนประเด็นสุดท้ายอันเป็นที่มาของชื่อ <b>'ชายผู้ร่ายรำกับน้ำตา'</b><br />
<br />
<div style="float:right;"><script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib336*280 */
google_ad_slot = "7190409290";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script></div> น่าเศร้านะ (แถมอารมณ์ของหนังก็บิวด์ได้ชวนเศร้าเอาตายมากๆ) กับการที่ชายหนุ่มคนนี้ต้องลืมตาดูโลกในทุกๆวันที่ยังหายใจด้วยหัวใจที่ด้านชาและไม่ยอมเปิดรับ 'รักครั้งใหม่' กับใครซักคนที่พร้อมจะเข้ามาเป็น 'หญิงคนใหม่' ในชีวิตให้กับเขา <br />
<br />
ไม่อยากเล่าให้เสียอรรถรสและกลายเป็นสปอยส์อะไรต่อมิอะไรไปเสียหมด เอาเป็นว่า ฉากซึ่งเป็นเสมือน 'ไม้ตายเด็ด' ของหนังเรื่องนี้ ทำให้ชายอารมณ์ศิลปินถึงกับร่ำไห้ได้อย่างเอาตาย จากที่ดูเหมือนแข็งๆมาตลอดทั้งเรื่อง ฉากดังกล่าวทำให้คนดูสัมผัสได้ถึงทุกอณูของความรู้สึกสูญเสียและสูญสิ้นไปพร้อมๆกันว่ามันมากมายเพียงใด เมื่อเขาได้มารับรู้ 'ถ้อยแถลง' ความในใจจากหญิงสาวคนที่เขาเคยเปิดใจรักมากมาย ในวันที่หญิงสาวคนนั้นไม่มีลมหายใจอยู่บนผืนโลกใบนี้<br />
<br />
หากความรักฝังลึกของใครซักคนมันมีอนุภาพหนักแน่นถึงเพียงนี้...น่าเศร้าและน่าเห็นใจผลิตผลของความรู้สึกที่กลั่นออกมาเป็นน้ำตาเหมือนกัน ...เบื้องหลังของชายผู้นี้คงมีน้ำตาหล่อเลี้ยงเป็นดังเพื่อนสนิทอยู่ทุกวี่วัน<br />
<br />
ที่มา จากบทวิจารณ์ <a href="http://www.blogger.com/www.winbookclub.com">www.winbookclub.com</a><br />
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-3584331066861533422011-08-04T03:18:00.000-07:002011-09-07T11:59:33.736-07:00Smile スマイル Japanese Drama<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">" เรื่องราวของความรักและการเพรียกหาความยุติธรรม Smile "</span></b><br />
<br />
<a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/04/smile.html"></a><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/04/smile.html"></a><a href="http://2.bp.blogspot.com/-QYKK6vl81eI/TjppbmynQeI/AAAAAAAAB7M/sPNFW-7VcUk/s1600/Smile_Series.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://2.bp.blogspot.com/-QYKK6vl81eI/TjppbmynQeI/AAAAAAAAB7M/sPNFW-7VcUk/s320/Smile_Series.jpg" width="233" /></a></div><b>จุน มัตสึโมโตะ</b> (<b>Jun Matsumoto</b>) และ<b>ยูอิ อารางากิ</b> (<b>Yui Aragaki</b>) จะร่วมแสดงในละครเรื่อง<b> Smile</b> ละครเรื่องใหม่ของทาง TBS ทาคายูกิ ทาคุมะ (Takayuki Takuma) หนึ่งในนักเขียนละคร Hana Yori Dango ที่มักจะใช้นามปากกาว่า มิกิโอะ ซาตาเกะ (Mikio Satake) รับหน้าที่ดูแลบท<br />
<br />
มัตสึโมโตะแสดงเป็นลูกครึ่งชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งพ่อของเขาเสียชีวิตไปแล้ว ในขณะที่แม่ของเขาหายสาบสูญ แม้ว่าเขาจะโชคร้าย และพบเจอกับปัญหาที่มีอยู่ เขายังคงใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยการมองโลกในแง่ดีและยิ้มอย่างสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับอารางากิ ซึ่งจะแสดงเป็นหญิงวัยรุ่น ที่อยู่อย่างร่าเริง แม้ว่าเธอจะสูญเสียความสามารถในการพูดเนื่องจากอุบัติเหตุ นักแสดงคนอื่นๆเช่น คิอิจิ นากาอิ (<b>Kiichi Nakai</b>) ในบทของทนายความ ที่คอยดูแลทั้งมัตสึโมโตะและอารางากิ<br />
<br />
<div style="text-align: center;"><b><span class="Apple-style-span" style="color: blue; font-size: large;">I HAVE A DREAM</span></b></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"></div><br />
ผมมีความฝัน นั่นคือการเปิดร้านอาหาร เป็นร้านที่รวมทุกเชื้อชาติไว้ด้วยกัน เป็นร้านที่คุณสามารถลิ้มรสอาหารนานาชาติได้ ผมปรารถนาจะสร้างร้านนั้นกับเธอแค่เราสองคน ผมยังไม่ได้คิดชื่อร้านเอาไว้เลย แต่ว่าทุกคนที่ได้เข้ามาทานอาหารที่นั่น จะต้องเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แม้แต่คนที่รู้จักกันแค่ผิวเผิน ก็สามารถนั่งด้วยกัน ที่โต๊ะตัวเดียวกันได้และ...ยิ้มได้<br />
<br />
- เอาชนะความเจ็บปวดด้วย "<b>รอยยิ้ม</b>"<br />
<br />
- การพยายามต่อสู้อย่างไม่ยอมแพ้ เราไม่มีวัน..โดดเดี่ยว<br />
<br />
<div style="text-align: center;"><span class="Apple-style-span" style="color: red;"><b>" นายยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ยังไง </b></span></div><div style="text-align: center;"><span class="Apple-style-span" style="color: red;"><b>ตอนที่ฉันมองนาย นายเอาชนะความเจ็บปวด ด้วยรอยยิ้มได้ยังไง "</b></span></div><br />
<span class="Apple-style-span" style="color: red;">@@</span> นั่นน่ะซิเราจะทำได้อย่างบิโตะไหมเนี่ย อย่างแรกคงต้องมองโลกในแง่ดี <span class="Apple-style-span" style="color: red;">@@</span><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-zfJk-hCeIy4/TkgiOi3evjI/AAAAAAAACEw/YNhrZdo3Lxw/s1600/Smile-2009-Japanese.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="136" src="http://3.bp.blogspot.com/-zfJk-hCeIy4/TkgiOi3evjI/AAAAAAAACEw/YNhrZdo3Lxw/s200/Smile-2009-Japanese.jpg" width="200" /></a></div><b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Cast</span></b><br />
Jun Matsumoto - Bito Hayakawa<br />
Yui Aragaki - Hana Mishima<br />
Eiko Koike - Shiori Machimura<br />
Masanobu Katsumura - Keisuke Kashiwagi<br />
Gin Maeda - Sosuke Machimura<br />
<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">รางวัล</span></b><br />
13th Nikkan Sports Drama Grand Prix Spring 2009<br />
Best Drama: Smile<br />
Best Actor: Matsumoto Jun / Smile<br />
Best Supporting Actor: Nakai Kiichi / Smile<br />
Best Supporting Actress: Aragaki Yui / Smile<br />
<br />
ที่มา <a href="http://www.blike.net/th/node/5735">www.blike.net</a><br />
ที่มา <a href="http://asianmediawiki.com/Smile_(2009-Japan-TBS)">asianmediawiki.com/Smill</a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-6647416810879030632011-08-04T02:05:00.000-07:002011-09-07T12:10:32.171-07:00Godhand Teru หัตถ์เทวดาเทรุ<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhwrGlSQ1zrikiFC1Uz07KjCX7xNoZj92XJioYZG7ty4wm-2ZyNTI-yR2mIBkedp077PcErJnSV9IRL5UO3Pfbz-0KUI8vNyveMdbqGf0Xwc_3lfXHqMoJ49xQtL_bZs-FvtkCMyztIg4A/s1600/GodhandTeru.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhwrGlSQ1zrikiFC1Uz07KjCX7xNoZj92XJioYZG7ty4wm-2ZyNTI-yR2mIBkedp077PcErJnSV9IRL5UO3Pfbz-0KUI8vNyveMdbqGf0Xwc_3lfXHqMoJ49xQtL_bZs-FvtkCMyztIg4A/s200/GodhandTeru.jpg" width="141" /></a></div>"<b><span class="Apple-style-span" style="color: red;">โชคชะตาคือสิ่งที่เราต้องต่อสู้กับมัน</span></b>" มาฮิกาชิ เทรุ ลูกชายของศัลยแพทย์ชื่อดังระดับโลก ซุ่มซ่ามเซ่อซ่า,มองโลกในแง่ดี ถึงแม้ว่าจะไม่เก่งแต่ก็พยายามที่จะเรียนรู้และฝึกฝน จิตใจดีปรารถนาที่จะช่วยคนไข้อย่างสุดความสามารถ เห็นคุณค่าของชีวิตคน,มีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะไม่อยากให้ผู้คนต้องตาย พร้อมที่จะเรียนรู้ตลอดเวลาชะตาชีวิตเกิดมาเพื่อเป็นหมอ แต่ถ้าวิญญาณของพ่อเข้าสู่ร่างเมื่อไหร่จะสามามารถผ่าตัดรักษาเคสที่ยากๆได้เหมือนพ่อกลับชาติมาเกิด <br />
<br />
<b>Godhand Teru (หัตถ์เทวดาเทรุ) เป็นละครเกี่ยวกับหมอ</b>มีเพียงแค่ 6 ตอนเท่านั้น (ดีวีดี 3 แผ่น) ถึงแม้จะสั้นแต่ก็เต็มไปด้วยสาระ คนที่เป็นหมอหรือกำลังจะเป็นหมอ หรือแม้แต่คนที่อยากเป็นควรดูมากๆเรื่องนี้สอนเราได้หลายอย่างล่ะ ดูละครเกี่ยวกับหมอทำให้ได้รู้ความจริงในวงการแพทย์ทั้งด้านดีและไม่ดี รวมถึงเข้าใจคนเป็นหมอมากขึ้นด้วย <br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">ซีรี่ย์ Godhand Taru หัตถ์เทวดาเทรุ ดูแล้วได้ข้อคิดจากทุกๆตอนที่นำเสนอ </span></b><br />
<br />
<ul><li> การผ่าตัดไม่ได้ขึ้นอยู่กับดวง "<span class="Apple-style-span" style="color: red;">อย่าลืมที่จะเรียนรู้ และอย่าเมินเฉยต่อการฝึกฝน</span>"<br />
</li>
</ul><ul><li> ร่างกายของคนไข้ไม่ใช่เกมส์ที่จะนำมาใช้แข่งขันประชันฝีมือกัน</li>
</ul><ul><li> 3 อย่างที่หมอต้องมี คือ มีด,ยา และคำขอบคุณ</li>
</ul><ul><li> ประสบการณ์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด</li>
</ul><ul><li> ก่อนการผ่าตัดหมอต้องเตรียมสภาพร่างกายและจิตใจให้พร้อม</li>
</ul><ul><li> คิดถึงคนใข้ด้วยใจจริงเราก็จะไม่ทำสิ่งที่ผิดพลาด</li>
</ul><ul><li> การใช้เวลาในการผ่าตัดมากเกินไปอาจจะส่งผลเสียต่อคนไข้ รอบคอบและรวดเร็วคือพื้นฐานของการผ่าตัด</li>
</ul><ul><li> วิสัญญีต้องไม่เอาแต่ดูที่เครื่อง แต่ให้ดูที่มือของศัลยแพทย์ด้วย เพราะสิ่งที่สำคัญไม่ใช่ตัวเลขบนเครื่อง "<span class="Apple-style-span" style="color: red;"> สิ่งที่เราต้องดูคือร่างกายของคนไข้ </span>"</li>
</ul><ul><li> การดูแลสภาพจิตใจของคนไข้เป็นสิ่งสำคัญมาก ทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด</li>
</ul><ul><li> ไม่ว่าจะมั่นใจในความสามารถมากแค่ไหน ในที่สุดมันก็คือ " <span class="Apple-style-span" style="color: red;">พลังที่เราศรัทธา</span> " พลังที่เราเชื่อว่าจะทำสำเร็จ ถ้าเรามีพลังศรัทธานี้ ผลมันต้องออกมาดีแน่นอน</li>
</ul><ul><li> ไม่ได้เป็นโรคแต่ต้องป่วยเพราะความกังวล สิ่งที่สำคัญคือการค้นหาว่าทำไมคนไข้ถึงยังยืนกรานว่าตัวเองไม่สบาย</li>
</ul><ul><li> หมอสามารถรักษาได้ด้วยมีดและยา แต่ด้วยคำพูดก็ได้เช่นกัน</li>
</ul><div style="float: left;"><script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib 250*250 Text */
google_ad_slot = "0625022280";
google_ad_width = 250;
google_ad_height = 250;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script></div><br />
<iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="230" src="http://www.youtube.com/embed/6Ky9_e7GwW8?fs=1" width="230"></iframe><br />
<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">ตัวอย่างเคสการรักษาในเรื่อง ゴッドハンド輝 </span></b> <br />
<ul><li>แผลเล็กๆมันหายเองได้โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย มันเป็นความสามารถของร่างกายจึงไม่ต้องฝ่าตัดหรือใช้ยา ร่างกายก็จะพยายามรักษาตัวมันเองได้ มันเป็นความสามารถของมนุษย์ (คนไข้เป็นเด็ก ดูผลจากฟิล์มเอ็กซ์เรย์แล้วตับอ่อนมีรอยร้าว) คุณหมอจะตรวจสภาพร่างกายของเด็กโดยการกดไปตามท้อง และพูดคุยกับเด็กถามความเจ็บปวด เด็กไม่ได้เจ็บมาก หมอจึงตัดสินใจให้ดูอาการของเด็กก่อนเพราะท้องของคนไข้ไม่รู้สึกเจ็บอะไรมาก จึงไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเดี๋ยวนั้น พ่อแม่ของเด็กดีใจมากที่ลูกไม่ต้องผ่าตัด</li>
</ul><ul><li>โรคถุงลมอุดกั้นเรื้อรัง ตามปกติแล้วคนที่เป็นโรคนี้เคยมีออกซิเจนในเลือดต่ำ แต่ถ้าให้ออกซิเจนเข้าไปมากๆก็จะมีน้ำคั่ง ทำให้ผู้ป่วยหายใจขัดมีเสียงวี๊ดๆๆ</li>
</ul><ul><li>ปอดช้ำ (คนไข้เป็นเด็ก)ปอดได้รับบาดเจ็บ และยังมีเลือดในปอด แต่เอ็กซเรย์ไม่เจอ เพราะบางเคสเลือดจะไม่สะสมในทันทีก็เลยมองไม่เห็น จึงควรจะเอกซเรย์ทีหลัง หรือใช้หูฟังเพื่อเช็คเลือดที่ไหลช้าๆ</li>
</ul><ul><li>ปอดช้ำอาจจะมองไม่เห็นซีโครงแตก เพราะกระดูกของเด็กยืดหยุ่นได้จึงรับแรงกระแทกได้ ไม่หักเหมือนกระดูกผู้ใหญ่ แต่เคสพวกนั้นปอดข้างในจะได้รับบาดเจ็บเหมือนลูกโป่งกดจนแตกออกมาในฐานะหมอไม่ควรตรวจดูร่างกายแต่เพียงภาพนอกอย่างเดียว</li>
</ul><ul><li>การไหลย้อนของน้ำคร่ำ ? ทารกในครรภ์มีชีวิตอยู่ได้ในน้ำคร่ำของแม่เพียงแค่ใช้ออกซิเจนปริมาณเล็กน้อย</li>
</ul><span class="Apple-style-span" style="color: red;">"</span> <span class="Apple-style-span" style="color: red;">ถ้าเงินสามารถช่วยเหลือผู้คนที่อดอยากได้เยอะแยะ มีคนมากมายที่ถูกช่วยชีวิตจากความตาย แต่ว่า</span><span class="Apple-style-span" style="color: red;">เงินมันก็แค่เงิน มันไม่ใช่ชีวิต เพราะเราเกิดมาตัวเปล่า</span> <span class="Apple-style-span" style="color: red;">" <br />
<br />
<script src="http://www.adyim.com/ac/?VmpGU1MyTnJPVlpPVlZaV1YwZFNVVlZyWkU5a1JtUlZVMVJXYUUxWVFsaFVNVkpEWWtaa1JsTnVUbFpTYlZKNldrVmFjMWRHY0VobFJYUnBZbFV3TVZaSGRGTlhhelZHWTBoU1lXVnRlRkJaVjNSR1QxRTlQUT09" type="text/javascript">
</script></span>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-22509913526791763092011-08-04T01:48:00.000-07:002011-09-07T12:14:02.283-07:00Veterinarian Dolittle / Juui Dolittle คุณหมอดูลิตเติ้ล<a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/08/juui-dolittle-veterrinarian-dolittle.html"></a><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/08/juui-dolittle-veterrinarian-dolittle.html"></a><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgRv549MkkAdoKYA1v3vihZX3uKNI5xJp8HvVk4gxfmhfKqbZmvacDH-5wPwQfKZjPcsNa-jg7_P4itArqQyDzXfi8QVqQReLd-vkuFw3jqQZmCTlwnYF9tKgvHTzsI7lNxS9MtvaX45hc/s1600/Juui+Doritoru.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgRv549MkkAdoKYA1v3vihZX3uKNI5xJp8HvVk4gxfmhfKqbZmvacDH-5wPwQfKZjPcsNa-jg7_P4itArqQyDzXfi8QVqQReLd-vkuFw3jqQZmCTlwnYF9tKgvHTzsI7lNxS9MtvaX45hc/s320/Juui+Doritoru.jpg" width="228" /></a></div><br />
<br />
<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib 250*250 Text */
google_ad_slot = "0625022280";
google_ad_width = 250;
google_ad_height = 250;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Juui Dolittle / Veterinarian Dolittle 獣医ドリトル คุณหมอดูลิตเติ้ล</span></b><br />
<br />
สร้างจากการ์ตูนสุดฮิต ของอาจารย์มิ<b>โดริ นัทสึ </b>และอาจารย์<b>ชิคุยามา คิโยชิ </b>เรื่องราวของคุณหมอ ทตโตริ เคนจิ สัตวแพทย์หรือที่รู้จักกันได้นาม <b>คุณหมอดูลิตเติ้ล</b> (<b>Dolittle</b>) สัตว์แพทย์ฝีมือดีแต่มีเล่ห์เหลี่ยม ถือคติว่า “<span class="Apple-style-span" style="color: blue;"><b>รักษาสัตว์คือธุรกิจ</b></span>” บุคคลิกสุดจิกกัดปากร้าย เข้มงวดขี้เหนียวเรื่องเงิน และ กับเจ้าของสัตว์เลี้ยง แต่เขาไม่ใช่เพียงแค่ช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยที่บอกอาการตัวเองไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ หรือ ความรู้เท่าไม่ถึงการของเจ้าของเท่านั้น เคนอิจิยังช่วยรักษา “ใจ" ของบรรดานาย ๆ เจ้าสัตว์ตัวน้อยทั้งหลายด้วย<br />
<br />
และยังมีสัตวแพทย์หนุ่มที่ชื่อ ฮานาบิชิ มาซารุ ที่เป็นคู่รักคู่แค้นของ<b>คุณหมอดูลิตเติ้ล</b> คุณหมอมาซารุน่ารักมีน้ำใจไมตรี และมีแนวคิดในการรักษาสัตว์ที่ต่างกันราวขาวกับดำ อย่างไรก็ดีคุณหมอทตโตริและคุณหมอมาซารุไม่ได้เป็นเพียงคู่แข่งทางการงาน วิชาชีพเท่านั้น แต่พวกเขายังเป็นคู่แข่งกันในด้านความรักกับพยาบาลผู้ช่วยสาวแสนสวยที่ชื่อ ทาจิม่า อาสุกะ แล้วความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป ใครจะเป็นผู้พิชิตหัวใจของอาสุกะ โปรดติดตามได้ในซีรี่ย์ <b>Juui Dolittle 獣医ドリトル / Veterrinarian Dolittle</b><br />
<br />
<a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/08/juui-dolittle-veterinarian-dolittle.html"></a><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/08/juui-dolittle-veterinarian-dolittle.html"></a><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh7p39S8N9sH8jGZxvT96yuMZJzlrPodJcHKVuzYu5mbGpnXkYRIaWi-WSot4W7WCcsOP8tz20Rt111hjburepwdalH6PVfZkxuY50IZHvCPfaI2qrDgBnitKDfN8yK5DJ67y3sAGmSyHE/s1600/Doilttle.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="153" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh7p39S8N9sH8jGZxvT96yuMZJzlrPodJcHKVuzYu5mbGpnXkYRIaWi-WSot4W7WCcsOP8tz20Rt111hjburepwdalH6PVfZkxuY50IZHvCPfaI2qrDgBnitKDfN8yK5DJ67y3sAGmSyHE/s320/Doilttle.jpg" width="320" /></a></div><br />
<b>รายละเอียดนักแสดง Juui Dolittle 獣医ドリトル / Veterinarian Dolittle</b><br />
<br />
<b>Oguri Shun</b> as Tottori Kenichi (Dolittle)<br />
<b>Inoue Mao</b> as Tajima Asuka<br />
<b>Narimiya Hiroki</b> as Hanabishi Masaru<br />
<b>Fujisawa Ema</b> as Fudo Rumi<br />
<b>Kasahara Hideyuki</b> as Domon Yuzo<br />
<b>Suda Masaki</b> as Domon Junpei<br />
<b>Ishizaka Koji</b> as Professor Tomizawa<br />
<b>Kunimura Jun</b> as Director Domon<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://www.blogger.com/post-edit.g?blogID=5865807742219698580&postID=2595907838023686610"><img border="0" src="http://2.bp.blogspot.com/-VOSK3QBRtjY/TjLBVToEPYI/AAAAAAAABOs/vfFo9w1QxF0/s1600/d2.jpg" /></a></div><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://www.blogger.com/post-edit.g?blogID=5865807742219698580&postID=2595907838023686610"><img border="0" src="http://3.bp.blogspot.com/-J8WXsjCPfO8/TjLBVewprSI/AAAAAAAABO0/OXP43MUhuWI/s1600/d4.jpg" /></a></div>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-56378149086070375062011-07-30T22:05:00.000-07:002011-09-07T12:18:13.733-07:00Yureru (Sway) ゆれる<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-Ui5xB8K08Rk/TkgoLTeGU_I/AAAAAAAACE4/67CL6CrWVD8/s1600/Yureru.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://2.bp.blogspot.com/-Ui5xB8K08Rk/TkgoLTeGU_I/AAAAAAAACE4/67CL6CrWVD8/s320/Yureru.jpg" width="214" /></a></div><br />
<br />
<script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib 300*250 Text */
google_ad_slot = "7058232574";
google_ad_width = 300;
google_ad_height = 250;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script><br />
<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Yureru (Sway)</span></b> เป็นเรื่องราวของช่างภาพที่ทำงานในโตเกียวมาหลายปี ต้องกลับบ้านเกิดที่ชนบทเพื่อมางานศพของแม่ เขาได้เจอพ่อ,พี่ชายและแฟนเก่าอีกครั้ง โดยหารู้ไม่ว่าการกลับมาครั้งนี้จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล<br />
<br />
หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึง<b>ความไม่มั่นคงในจิตใจ</b>ของตัวเอกตามชื่อเรื่อง (Sway) นอกจากในหนังยังถ่ายทอดความสัมพันธ์หลายรูปแบบ ทั้งพ่อลูก พี่ชายน้องชาย คนรัก รวมถึงเป็นการสะท้อนภาพความแตกต่างระหว่างคนเมืองและคนชนบทซึ่งแทนโดยตัวเอกและพี่ชาย<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;">รางวัลภาพยอดเยี่ยม จากงาน Mainichi Film Awards 2006 ของญี่ปุ่น</span><br />
<br />
<b>Sway (ゆれる Yureru)</b> is a 2006 film directed by Japanese director <b>Miwa Nishikawa</b>. It was given the Best Film award at the 2007 Yokohama Film Festival.A young woman falls to her death from a bridge while walking in the country with two brothers, one a small town gas station attendant, the other a trendy Tokyo photographer. Is one or both responsible for her death? While the older brother is put on trial for her fall, the younger brother's memories are constantly changing in response to outward influences. The audience is left questioning what actually occurred and wondering if her death was a murder.<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-Fims-GcE_HY/Tkgt8pmtvqI/AAAAAAAACFA/I1d5cbWw7uc/s1600/Sway.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="238" src="http://2.bp.blogspot.com/-Fims-GcE_HY/Tkgt8pmtvqI/AAAAAAAACFA/I1d5cbWw7uc/s320/Sway.jpg" width="320" /></a></div><br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Cast</span></b><br />
Jo Odagiri<br />
Teruyuki Kagawa<br />
Masatô Ibu<br />
Hirofumi Arai<br />
Yoko Maki<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue;"><b>Director</b> by</span><br />
Miwa Nishikawa<br />
<br />
<br />
<br />
ที่มา <a href="http://en.wikipedia.org/wiki/Sway_(film)">en.wikipedia.org/wiki/Sway_(film)</a><br />
<script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib 468*60 */
google_ad_slot = "2964542722";
google_ad_width = 468;
google_ad_height = 60;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-49881703441580291342011-07-30T21:55:00.000-07:002011-09-03T07:51:25.002-07:00TOKYO SONATA วันที่หัวใจซ่อนเจ็บ トウキョウソナタ<a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/07/tokyo-sonata.html"></a><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://doopladib.blogspot.com/2011/07/tokyo-sonata.html"></a><a href="http://2.bp.blogspot.com/-jKeoDi6er4U/TkgwcRo-HGI/AAAAAAAACFI/SneGtpCFUIU/s1600/Tokyo%2BSonata.JPG" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://2.bp.blogspot.com/-jKeoDi6er4U/TkgwcRo-HGI/AAAAAAAACFI/SneGtpCFUIU/s320/Tokyo%2BSonata.JPG" width="228" /></a></div><br />
ครอบครัวหนึ่งในโตเกียวอันประกอบไปด้วย พ่อผู้เงียบขรึมที่โดนไล่ออกจากงานแต่ไม่กล้าบอกให้คนอื่นทราบ แม่เป็นแม่บ้านที่ไม่เคยใส่ใจความปรารถนาของตัวเอง ลูกชายคนโตเคว้งคว้างจนไปสมัครเป็นทหารไปรบที่อิรัก ส่วนลูกชายคนเล็กก็แอบพ่อแม่ไปเรียนเปียโนเพราะกลัวโดนดุ<br />
<br />
ด้วยพล็อตที่ฟังดูง่ายๆเช่นนี้แต่ <b>Tokyo Sonata</b> กลับแสดงให้เห็นภาพรวมของสังคมโลกที่นับวันจะ “เข้าอกเข้าใจ”กันยากมากขึ้น พวกเราสื่อสารและห่วงใยกันน้อยลง รวมถึงแสดงความรักกันไม่เป็น<br />
<br />
แม้จะมีหนังเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวที่ร้าวฉานมาฉายให้คอหนังไทยได้ชมกันอยู่เนืองๆ แต่สำหรับ <b>Tokyo Sonata</b> ของผู้กำกับ คิโยชิ คุโรซาวะ จะไม่เหมือนกับหนังเรื่องไหนๆเพราะหนังเรื่องนี้กวาดต้อนอารมณ์ของคุณให้จนมุม ก่อนจะกระเจิดกระเจิงไปแบบกู่ไม่กลับ นี่คืองานที่นักวิจารณ์ทั่วโลกยกย่องว่าเป็นหนังดราม่าว่าด้วยชิวิตครอบครัวร่วมสมัยที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปีมานี้...<br />
<br />
<span class="Apple-style-span" style="color: red;">@@</span> แนะนำให้ดูอย่างยิ่งค่ะ หนังก็สมกับรางวัลที่ได้จริงๆ ดูไปก็อืมใช่ ใช่จริงๆด้วยคนสมัยนี้ก็เป็นอย่างนี้กันจริงๆ นับวันเราพูดคุยสื่อสารกันน้อยลง มีปัญหาอะไรก็เก็บเงียบมันเป็นที่มาของปัญหาต่างๆเลยล่ะ <span class="Apple-style-span" style="color: red;">@@</span><br />
<br />
<b>Tokyo Sonata (トウキョウソナタ Tokyo sonata ) </b>is a 2008 film directed by <b>Kiyoshi Kurosawa</b>. It won the award for Best Film at the 3rd Asian Film Awardsand received 2008 Asia Pacific Screen Awards nominations for Achievement in Directing and Best Screenplay. At the 2008 Cannes Film Festival it won the Prix Un Certain Regard.<br />
<div style="float:left;"><script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib336*280 */
google_ad_slot = "7190409290";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js">
</script><br />
</div><b>Cast<b></b></b><br />
Teruyuki Kagawa as Ryūhei Sasaki<br />
Kyōko Koizumi as Megumi Sasaki<br />
Yū Koyanagi as Takashi Sasaki<br />
Kai Inowaki as Kenji Sasaki<br />
Haruka Igawa as Miss Kaneko<br />
Kanji Tsuda as Kurosu<br />
Kōji Yakusho as the Robber<br />
<br />
A FILM BY <br />
<b>KIYOSHI KUROSAWA</b><br />
<br />
<br />
ที่มา <a href="http://en.wikipedia.org/wiki/Tokyo_Sonata">en.wikipedia.org/wiki/Tokyo_Sonata</a><br />
Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-84156284461806115432011-07-30T21:44:00.000-07:002011-09-07T12:20:35.828-07:00Hatsukoi-Koi / First Love รักแรก บันทึกทั้งชีวิต<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-PXAs1SkZ8Ho/TjTctesDpjI/AAAAAAAABUg/YqxpkfOemS8/s1600/Hatsu%2B-%2BKoi.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://3.bp.blogspot.com/-PXAs1SkZ8Ho/TjTctesDpjI/AAAAAAAABUg/YqxpkfOemS8/s320/Hatsu%2B-%2BKoi.jpg" width="201" /></a></div><b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">Hatsukoi-Koi (First Love)</span></b> สร้างจากเรื่องจริงเกี่ยวกับคดีปล้นเงินที่คลุมเครือที่สุดในญี่ปุ่น <br />
<br />
เรื่องราวของนักเขียนสาว มิซูสึ นาคาฮาร่า (อาโออิ มิยาซากิ) ซึ่งได้สารภาพความเกี่ยวพันของเธอที่มีต่อคดีปล้นเงิน 300ล้านเยน ในวันที่ยุ่งเหยิงช่วงศตวรรษ 1960<br />
<br />
มิซูสึ นักเรียนไฮสคูลที่ว้าเหว่และมาจากครอบครัวแตกแยก ได้เข้าไปพัวพันกับ เรียว (มาซารุ มิยาซากิ) และแก๊งค์ของเขาที่นิยมการทำลายล้างพวกเขาใช้ชีวิตในแต่ละวันให้ผ่านไปด้วยการไปสิงอยู่ตามคาเฟ่บาร์ และหมกมุ่นกับเพศสัมพันธ์ ยาเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์<br />
<br />
ขณะที่ความยุ่งเหยิงของสังคมแทรกซึมเข้าไป ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เริ่มสั่นคลอน มิซูสึ เข้าไปพัวพันกับแผนการร้ายที่มี คิชิ (เคอิซูเกะ โคอิเดะ) เป็นต้นคิด<br />
<br />
คิชิ วางแผนที่จะปล้นรถขนเงินธนาคารที่บรรทุกเงิน 300 ล้านเยน ทั้งคู่ซักซ้อมปฏิการกันหลายครั้งหลายหน ขณะที่หัวใจของพวกเขาเข้าใกล้กันอย่างเงียบๆ เหตุบังเอิญในวันฝนตก ทำให้แผนการร้ายสามารถสำเร็จลุล่วงลงได้<br />
<br />
เหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงกับญี่ปุ่น แต่กลับทำให้มิซูสึต้องเผชิญกับความรู้สึกสูญเสียและความโศกเศร้าที่เธอคาดไม่ถึง<br />
<br />
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue;">คดี 300 ล้านเยน – สร้างจากเรื่องจริง</span></b><br />
<div style="float: left;"><script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib336*280 */
google_ad_slot = "7190409290";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script></div>เช้าวันที่ 10 ธันวาคม ปี 1968 ขณะที่ฝนกำลังโปรยปรายชานกรุงโตเกียว ตำรวจขี่มอเตอร์ไซต์ได้เข้าขวางรถขนเงินที่บรรทุกเงินโบนัสของพนักงานโตชิบาจำนวน 300 ล้านเยน (เท่ากับ 2 ล้านดอลล่าร์ในปัจจุบัน) ตำรวจนายนั้นสั่งให้คนขับรถและคนอื่นๆ ทุกคนออกจากรถ ขณะที่เขาเข้าตรวจค้นโดยอ้างว่ามีการขู่วางระเบิด ขณะที่คนอื่นยินยอมทำตาม เนื่องจากเข้าใจว่ากลุ่มควันที่เกิดขึ้นเป็นระเบิดจริง ตำรวจก็ขับรถและหลบหนีไป<br />
<br />
แม้จะมีพยานเห็นเหตุการณ์กว่า 100 คน และใช้ตำรวจ 170,000 นาย ในการสอบสวนผู้ต้องสงสัย 110,000 คน รวมทั้งต้องสูญงบประมาณในการสอบสวนไปกว่าพันล้านเยนก็ตาม แต่กลับไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้และไม่มีผู้ใดพบเงินที่ถูกเชิดไป <br />
<br />
คดีดังกล่าวหมดอายุความในปี 1975 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ซับซ้อน แต่กลับกลายเป็นคดีที่คลุมเครือที่สุดในศตวรรษที่ 20 ของญี่ปุ่น <br />
<br />
ขณะที่หนังสือ ภาพยนตร์ ละครทีวีสร้างผลงานที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว “ภาพประกอบ” ของผู้ต้องสงสัยที่ใส่หมวกตำรวจสีขาวกลายเป็นภาพที่ผู้คนจำติดตา<br />
<br />
<!--โฆษณารูปแบบ Image ขนาด 468X60 เพื่อแสดงบนเว็บ Doopladib --><script type="text/javascript" src="http://www.adyim.com/ac/?VmpGU1MyTnJPVlpPVlZaV1YwZFNVVlZyWkU5a1JtUlZVMVJXYUUxWVFsaFVNVkpEWWtaa1JsTnVUbFpTYlZKNldrVmFjMWRHY0VobFJYUnBZbFV3TVZaSGRGTlhhelZHWTBoU1lXVnRlRkJaVjNSR1QxRTlQUT09"></script><!--สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 07 ก.ย. 54 -->Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-24673156230084515232011-07-28T15:18:00.000-07:002011-09-03T07:46:06.707-07:00Yusuke Iseya ยูสุเกะ อิเซยะ<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-snBsvWrHaaE/TkhxvO2D_8I/AAAAAAAACGA/3nHXlDlWDIY/s1600/vlcsnap-2011-05-26-15h10m42s223.png" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="281" src="http://2.bp.blogspot.com/-snBsvWrHaaE/TkhxvO2D_8I/AAAAAAAACGA/3nHXlDlWDIY/s320/vlcsnap-2011-05-26-15h10m42s223.png" width="262" /></a></div><br />
<b>ยูสุเกะ อิเซยะ Yusuke Iseya</b> เปิดตัวบนเส้นทางการแสดงในภาพยนตร์ของผู้กำกับฯ ฮิโรกะซู โคริอิดะ เรื่อง <b>Wonderful Life</b> รวมถึงเข้าศึกษาต่อด้านภาพยนตร์ที่ NYU ก่อนจะรับบทนำเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง <b>Kinpaut No Sogen</b> ต่อมาจึงรับบทนำในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ อีกมากมาย เป็นต้นว่า <b>Distance</b> (2001) และ <b>Gaichuu</b> (2002) กระทั่ง<br />
<br />
ปี 2003 จึงมีผลงานกำกับภาพยนตร์เป็นเรื่องแรก นั่นคือ Kakuto ซึ่งทั้งเขียนบทและแสดงเองด้วย ภาพยนตร์นั้นได้รับเลือกให้เข้าฉายอย่างเป็นทางการในเทศกาล Rotterdam International Film Festival โดยกวาดเสียงชื่นชมมาได้ล้นหลาม <br />
<br />
ต่อเนื่องมาถึงปี 2004 เขารับบทใน <b>Casshern</b> ภาพยนตร์สุดฮิตของผู้กำกับฯ คาซูอากิ คิริยะ <br />
<br />
ส่วนในปี 2006 นั้น กล่าวได้ว่าเป็นปีทองเขาเลยทีเดียว โดยมีผลงานกับภาพยนตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น <b>Kiraware Natsuko No Isshou, >Hachimitsu To Clover, Deguchi No Nai Umi</b> รวมถึงการแสดงในภาพยนตร์ของผู้กำกับฯ คิจิตาโร เนกิชิ เรื่อง <b>Yuki Ni Negau Koto</b> ซึ่งต้องประชันบทบาทกับ โคอิจิ ซาโต ด้วย ผลคือ อิเซยะคว้ารางวัลนักแสดงแห่งปีมาครองได้จากเทศกาล Tokyo International Film Festival นอกจากนี้ เขายังมีผลงานที่เพิ่งผ่านตาไปไม่นาน อย่าง<b> Zukan Ni Nottenai Mushi, Densenka</b> และ <b>Closed Note</b><br />
<script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib336*280 */
google_ad_slot = "7190409290";
google_ad_width = 336;
google_ad_height = 280;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script><br />
<br />
ที่มา <a href="http://www.nangdee.com/">http://www.nangdee.com</a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-32353519078569567762011-07-28T14:49:00.000-07:002011-09-03T07:45:11.655-07:00Hana and Alice สองหัวใจ หนึ่งความทรงจำ<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><span class="Apple-style-span" style="color: blue; font-size: large;">“ ความรักก็เหมือนเส้นขนานของความรู้สึก แตกต่างกันตรงที่ว่า บางคนอยากเก็บความรู้สึกนั้นไว้ หรือทอดทิ้งความรู้สึกนั้นไป ”</span></div><br />
<a href="http://2.bp.blogspot.com/-cux1C48xFQY/TjLNEEBBLnI/AAAAAAAABO8/W1Mq85yoNOo/s1600/Hana-Alice1.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="400" src="http://2.bp.blogspot.com/-cux1C48xFQY/TjLNEEBBLnI/AAAAAAAABO8/W1Mq85yoNOo/s400/Hana-Alice1.jpg" width="250" /></a><br />
ฮานะ (<b>อันเนะ ซูซูกิ</b>) เป็นเพื่อนสนิทกับ อลิศ (<b>ยู อาโออิ</b>) พวกเธอเรียนโรงเรียนเดียวกัน อยู่ชมรมเดียวกัน และบ้านอยู่ใกล้กัน ฮานะแอบรักผู้ชายคนหนึ่ง เธอเล่าให้อลิศฟัง แต่อลิศรู้สึกว่าเธอชอบเพื่อนของเขามากกว่า แล้ววันหนึ่ง ผู้ชายในฝันของฮานะก็เป็นโรคประหลาด นั้นก็คือ เขาสูญเสียความทรงจำระยะสั้น ฮานะจึงสร้างความทรงจำใหม่ให้แก่เขา ด้วยการบอกว่า ..เธอคือคนรักของเขา<br />
<br />
เรื่องหลอกลวงเริ่มหนักข้อขึ้นกว่าเดิม เมื่อ<b>ฮานะ</b>อุปโลกน์<b>อลิส</b>ขึ้นเป็นอดีตคนรักของเขา และเมื่อทั้ง 3 เริ่มล้อเล่นกับความทรงจำ ทั้งของตัวเองและคนอีกคนหนักข้อขึ้น ฮานะก็เริ่มเข้าใจว่า การบังคับหัวใจคนนั้น ยากยิ่งไปกว่าการรักษามิตรภาพ และความรักให้คงอยู่ต่อไป<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
**** หนังรักสามเส้าที่ดูแล้วไม่เศร้า แต่อิ่มเอมใจ ****<br />
<br />
ได้รางวัล <b>Japanese Professional Movie Award 2005</b><br />
<b>Best Actress : Yu Aoi</b><br />
<br />
ผู้กำกับ : <b>ชุนจิ อิวาอิ</b><br />
นักแสดง : <b>ยู อาโออิ, อันเนะ ซูซูกิ</b><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhZ9k9cCFuqjyvIF5I47Wdt1YP54kh5smqK0BPINbF0NpQINUMDsPXyR_W9unnjPpoe3_AngCP9pAlplfZqSVSoSX1V2fwo6GATGIBAwdLKX-sko-6z38HJoiwTCI_fHyiAOsEmoQFDqhY/s1600/hana1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhZ9k9cCFuqjyvIF5I47Wdt1YP54kh5smqK0BPINbF0NpQINUMDsPXyR_W9unnjPpoe3_AngCP9pAlplfZqSVSoSX1V2fwo6GATGIBAwdLKX-sko-6z38HJoiwTCI_fHyiAOsEmoQFDqhY/s1600/hana1.jpg" /></a></div><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-cVCnnLs3qNA/TjHZVQjA-DI/AAAAAAAABNE/GeKiiVS90HA/s1600/hana2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://1.bp.blogspot.com/-cVCnnLs3qNA/TjHZVQjA-DI/AAAAAAAABNE/GeKiiVS90HA/s1600/hana2.jpg" /></a></div>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-41797238830233918782011-07-28T14:32:00.000-07:002011-09-03T07:43:48.485-07:00Crying Out for Love,In the Center of the World<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-MSjH135ZeBQ/TjLQZncu7tI/AAAAAAAABPM/748Jy5zEX_U/s1600/crying.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://1.bp.blogspot.com/-MSjH135ZeBQ/TjLQZncu7tI/AAAAAAAABPM/748Jy5zEX_U/s320/crying.jpg" width="201" /></a></div><b>เรื่องย่อ</b> <b>Crying Out for Love, In the Center of the World พร่ำหัวใจเพรียกหารักที่กลางโลก</b><br />
<br />
"ซากุทาโร่" ผู้มีอดีตอันขมขื่นเกี่ยวกับคนรัก (อากิ) ที่เสียชีวิตลงด้วยโรคลูคีเมีย ต้องแปลกใจเมื่อจู่ๆคู่หมั้นของเขา (ริทซึโกะ) ได้หายตัวไป เขาจึงเดินทางไปยังเมืองชิโกกุเพื่อตามหาเธอ<br />
<br />
ตั้งแต่ซากุทาโร่ได้ย่างก้าวเข้ามาถึงเมืองนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าเห็น ทำให้เขาอดคิดไม่ได้เกี่ยวกับความผูกพันธ์กับอากิที่เคยมีกันในเมืองนี้ มันเป็นความรักครั้งแรกที่ไม่สามารถลบเลือนไปได้จริงๆ <br />
<br />
จนความจริงได้ปรากฎว่า ริทซึโกะเองนั้น เป็นเด็กผู้หญิงที่คอยนำเทปอัดเสียงที่เปรียบเสมือนจดหมาย ส่งถึงซากุทาโร่ตลอดเวลา ตอนที่อากิอยู่โรงพยาบาล แต่ดันเกิดอุบัติเหตุบางอย่างทำให้เทปม้วนสุดท้ายก่อนที่อากิตาย ไม่ถึงมือซากุทาโร่<br />
<br />
มันเป็นความทรมานที่แสนเจ็บปวดจริงๆ เมื่อริทซึโกะได้รู้ว่า ตลอดเวลาซากุทาโร่ลืมอากิไม่ได้เสียที และเธอก็ไม่สามารถรับรู้ได้ถึงความรักที่ซากุทาโร่มีให้ ภาพที่เห็นซากุทาโร่ยืนอยู่หน้าเปียโนที่ห้องโถงของโรงเรียน ยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดอันนี้เข้าไปอีก...<br />
<br />
แต่ในที่สุดแล้วสิ่งที่ซากุทาโร่ควรจะทำก็คือ ดูแลริทซึโกะ แล้วสานความฝันที่ได้เคยสัญญาไว้กับอากิให้เป็นจริง ความเจ็บปวดในอดีตคงต้องปล่อยให้เวลาเท่านั้นที่จะรักษาแผลใจได้<br />
<br />
<script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* doopladib 468*60 */
google_ad_slot = "2964542722";
google_ad_width = 468;
google_ad_height = 60;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-78758725362509822382011-07-28T14:18:00.000-07:002011-09-03T07:44:09.945-07:00A Long Walk / Nagai Sanpo<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-2GGVXMuU5Zw/TjLTjESt20I/AAAAAAAABPc/OX5QLHqvIuQ/s1600/A%2BLong%2BWalk.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://2.bp.blogspot.com/-2GGVXMuU5Zw/TjLTjESt20I/AAAAAAAABPc/OX5QLHqvIuQ/s320/A%2BLong%2BWalk.jpg" width="201" /></a></div><b>A Long Walk (Nagai Sanpo)</b> หนังญี่ปุ่นปี 2006 ว่าด้วยชายแก่คนหนึ่งที่พยายามช่วยชีวิตเด็กผู้หญิงที่ถูกทำร้าย เพื่อเยียวยาจิตวิญญาณของตัวเอง<br />
<br />
ชายชราวัยเกษียณผู้จมอยู่กับอดีต Matsutaro Yasuda (<b>Ken Ogata</b>)ได้ย้ายไปอยู่อพาร์เม้นท์ในชนบท เขาได้เจอกับเด็กผู้หญิงตัวน้อย Sachi (<b>Hana Sugiura</b>)ที่ชอบนั่งเท้าเปล่าเกาะราวรั้วเหล็กอพาร์เม้นท์ แววตาของเด็กหญิงว่างเปล่า เดียวดาย เหมือนใครคนหนึ่งจากอดีต เด็กถูกทอดทิ้ง และโดนทำร้ายจากครอบครัว เขาจึงคิดจะช่วยเหลือ <br />
<br />
ชายชรากับเด็กน้อยค่อยๆ เปิดใจให้กันและร่วมเดินทางไปด้วยกันระหว่างนั้นเขาทั้งสองได้เจอกับเด็กหนุ่มท่าทางง่ายๆ คนหนึ่ง Wataru (<b>Shota Matsuda</b>)ทั้งสามร่วมเดินทางไปด้วยกันแต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าปลายทางที่พวกเขาร่วมเดินไปนั้นมันเกินกว่าสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง<br />
<br />
หนังเรื่องนี้ได้รับรางวัล Grand Prix (รางวัลใหญ่สุด) จากงาน Montreal World Film Festival Awards 2006 และ A Long Walk (Nagai Sanpo) ยังได้รับรางวัล จาก 16th Japan Movie Critics Awards Wnners<br />
Best New Actor: Shota Matsuda ("A Long Walk") โชตะได้รางวัลนักแสดงหน้าใหม่<br />
Best Director: Eiji Okuda ("A Long Walk")<br />
Judges' Special Best Actor: Ken Ogata ("A Long Walk")<br />
<script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* 300*250 */
google_ad_slot = "7058232574";
google_ad_width = 300;
google_ad_height = 250;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script><br />
<br />
<br />
ที่มาUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5865807742219698580.post-75982174303429148312011-07-28T14:12:00.000-07:002011-09-03T07:36:21.289-07:00A heartful of love<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-l8GohsGvIT4/TjLUYfNCv7I/AAAAAAAABPk/C20pZh9pPRk/s1600/A%2BHeartful%2Bof%2BLove.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://4.bp.blogspot.com/-l8GohsGvIT4/TjLUYfNCv7I/AAAAAAAABPk/C20pZh9pPRk/s320/A%2BHeartful%2Bof%2BLove.jpg" width="201" /></a></div><br />
<script type="text/javascript">
<!--
google_ad_client = "ca-pub-1607066806129495";
/* 300*250 */
google_ad_slot = "7058232574";
google_ad_width = 300;
google_ad_height = 250;
//-->
</script><br />
<script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript">
</script><br />
<br />
<br />
<br />
ซุซุทานิ ฮิโรชิ (<b>ฮิเดอากิ อิโต้</b>) นักธุรกิจหนุ่มวัย 30 เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดสมัยเด็ก และแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อได้พบกับเด็กชายวัย 10 ขวบที่วิ่งมายืนตรงหน้า ซึ่งปรากฏว่าเป็นตัวเขาเมื่อตอนเด็กนั่นเอง เขาจึงใช้โอกาสนี้กลับไปแก้ไขอดีตในเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ทำให้คุณยายของเขาต้องเสียชีวิต รวมถึงการช่วยชีวิตรักแรกในวัยเด็กของเขาจากโรคร้ายได้รึไม่ และความรักในหัวใจของเขาจะมีพลังเพียงพอหรือเปล่า<br />
<br />
<br />
ผู้กำกับ : Akihiko Shiota<br />
นักแสดง : Hideaki Ito, Mimura, Chieko Baisho, Ryo Katsuji, Yuko Kotegawa, Kankuro Kudo, Ei Morisako, Kanzaburo Nakamura, Asami Usuda, Kazuko Yoshiyuki<br />
ประเภท : RomanceUnknownnoreply@blogger.com0